Skip to content

การเรียนรู้แอดมินฝึกหัด สัปดาห์ที่ 12 : กลุ่มรวงข้าว

การเรียนรู้แอดมินฝึกหัด สัปดาห์ที่ 12 : กลุ่มรวงข้าว

กลุ่มรวงข้าว ได้พากเพียร รวมพลังฝึกงานเขียนทุกสัปดาห์ที่คุรุได้สอนไป หมู่เห็นว่าควรนำผลงานนักศึกษา ส่งเป็นการบ้านในหมวดหมู่ของสภาวธรรมด้วย (เพียรทำผลงานสัปดาห์ที่ 12)


640313 สภาวธรรม พี่น้องกลุ่ม รวงข้าว

สภาวธรรมที่ได้จากการทำงานกลุ่ม เป็นการฝึกงานเขียนที่คุรุสอนไปในตัว คนละอย่างน้อย 3-5 บรรทัดขึ้นไปค่ะ

1. พรพรรณ เอ็ทสเลอร์ (พร)

อายุ 48 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ อาศัยอยู่ ประเทศเยอรมนี

วันนี้กลุ่มพวกเรามีงานมากกว่าสัปดาห์ที่แล้ว มีพี่น้องร่วมเข้ามาส่งและช่วยกันแก้คำผิดถูก ด้วยกัน 6 ท่านทำให้พวกเราตรวจงานเสร็จทันเวลาที่จะได้เข้าร่วมบำเพ็ญ ในห้องต่อไปค่ะ

ดีใจกับพี่นิดที่วันนี้สามารถเข้าซูมในคอมพิวเตอร์ได้ แต่ก็ยังมีวิบากกรรมเล็กน้อยสู้ ๆ ค่ะพี่นิดสัปดาห์หน้าหวังว่าวิบากกรรมคงจะเปิดไฟเขียวให้จ้า ส่วนของตัวเองพี่น้องก็ได้ชี้ขุมทรัพย์ให้หลายเรื่อง ก็จะขอน้อมรับไปแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ วันนี้ก็พึ่งทราบค่ะว่า “ผักคื่นฉ่าย” เขียนผิดมาตั้งนาน เพิ่งรู้วันนี้เองว่า ที่เขียนถูกคือ “ผักขึ้นฉ่าย” ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้องกลุ่มรวงข้าวทุกท่านค่ะ สาธุ


2. สุดใจ โสะหาบ (นิด)

อายุ 54 ปี​ นักศึกษาวิชชาราม บ้านเกิดเป็นคนจังหวัดตรัง แต่ปัจจุบัน ทำงานบริษัท​อยู่ที่ กทม.

วันนี้เตรียมตัวตั้งแต่บ่ายแล้วว่าจะลองใช้เครื่องโน๊ตบุ้คดูค่ะ​ ซึ่งมี2เครื่อง​ เครื่องแรกลงวินโดร์10 ลงโปรแกรมซูมและไลน์เวอร์ชั่นใหม่ไว้แล้ว​ ซึ่งเครื่องนี้มีพี่เขาให้มาใช้และบอกว่าปลั้กที่เสียบกับตัวเครื่องไม่ดี บางครั้งไฟมันจะดับ เราลองใช้ดูก็ไม่ดับแต่ก็คิดว่าจะเอาไปซ่อม​

วันนี้เลยเอาเครื่องมาลองใช้ดูก่อน ​ก็มีน้องพร​ ช่วยสอนให้ ตอนแรกก็ไม่มีเสียง กดไปกดมา ก็ได้ยินเสียง พอเริ่มจะใช้งานได้​ เครื่องดับ​เปิดใหม่ไฟก็ไม่ติด

เลยตัดสินใจ​ เปลี่ยนเครื่องใหม่ใช้โน้ตบุคอีกเครื่องหนึ่งซึ่งลงวินโดร์2003ไว้และไลน์ก็เป็นเวอร์ชั่นเก่า​ ตอนที่เข้าซูมครั้งแรกเครื่องก็แจ้งว่าเป็นตัวเก่าอาจจะมีข้อมูลบางอย่างสูญหาย​เราก็กดยอมรับให้ทำงานต่อ ​พอเข้าซูมได้ แต่ปุ่มภาพและเสียงใช้ไม่ได้​ ปุ่มเสียงเปิดแต่น้องๆ​ ไม่ได้ยินเสียงพี่แต่พี่ได้ยินเสียงน้องๆ​ ส่วนปุ่มภาพกดปิดยังเห็นภาพอยู่​ ใช้ไม่ได้ลองหลายครั้งไม่ได้ผล​

เลยกลับมาใช้มือถือเหมือนเดิม วิบากเข้าจริงๆ ฟ้ายังไม่เปิด เอาไว้ฟ้าเปิดค่อยมาลองใหม่​

วันนี้ต้องขอโทษน้องๆทุกคนน่ะค่ะ ที่พี่ทำให้เสียเวลาในการตรวจงาน ซึ่งวันนี้พี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร มัวแต่ยุ่งกับการลองเครื่อง ซึ่งทำให้เสียพลังไปเยอะ

กิเลสเลยบอกว่ากินมื้อเย็นดีมั้ย วันนี้รู้สึกเหนื่อยและหิวด้วย กินมื้อเดียวคงไม่อยู่ แต่ก็มาคิดว่าเราก็ไม่ได้ทำงานอะไรหนักมาก แค่งานที่เราตั้งใจจะทำงานแต่มันไม่ได้ตามที่ใจเราต้องการเท่านั้น เราก็เลยเหนื่อยใจ​ ไม่ได้เป็นความต้องการของร่ายกายจริง​ ๆ​ก็ทำใจยินดีกับงานที่ได้ในวันนี้เพราะเราทำเต็มที่แล้ว ได้เท่าไหร่พอใจเท่านั้น​  เมื่อได้แค่นี้ก็ยอมรับด้วยใจที่เป็สุข​ สาธุค่ะ


3. อรวิภา กริฟฟิธส์ (อร)

อายุ 52 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ อาศัยอยู่ ประเทศออสเตรเลีย

ในสัปดาห์นี้ก็เข้ามาร่วมตรวจการบ้านกับพี่น้องสายเหมือนเคยเพราะติดทำงาน แต่มาสายก็ดีกว่าไม่มา

งานสัปดาห์นี้พี่น้องได้มีการบำเพ็ญหัวข้อใหม่ ๆ ทำให้มีการบ้านหลากหลาย และบางงานเป็นการบำเพ็ญการบ้านของพี่น้องข้างนอกด้วย ก็ได้ มีการปรึกษากันเรื่องจะเอาตามที่ท่านเขียนหรือเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ก็พยายามใช้หลักการประมาณตามที่เราจะทำได้ แล้วก็ตัดสินใจส่งให้คุรุดูอีกทีก็แล้วกัน แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไร เราทำดีที่สุด เท่าที่เราทำได้แล้ว

บรรยากาศการทำงานก็พบว่าพี่น้องมีความคุ้นเคยกันยิ่งขึ้น การงานก็ดำเนินไปตามวิบากดีร้ายของพวกเราสังเคราะห์กัน แต่ในช่วงท้ายก่อนเสร็จงานมีสภาวะให้ตัดสินใจ คือมีลิ้งค์ซูมงานค่ายออนไลน์ new normal กับการบ้านอริยสัจ เข้ามา อยากเข้าทั้งสองงาน แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าค่ายออนไลน์ค่ะ สาธุ


4. ศิริพร คำวงษ์ศรี (หมู)

อายุ 35 ปีสังกัด สวนป่านาบุญ 9 จ.สุพรรณบุรี อาศัยอยู่ กทม

อาศัยอยู่หลังจากหายไปนาน เพื่อสะสางจิตใจ และปรับสมดุลการทำงานให้เหมาะกับชีวิตจิตวิญญาณและกายมากขึ้น เนื่องจากก่อนหายไป มีอาการหายใจไม่ออก บางวันเหมือนคล้ายจะหยุดหายใจ มีภาวะอยากลาตาย แน่นหน้าอก พิจารณาแล้ว คิดว่าน่าจะเกิดจากความโลภ อยากจะเอาดีทุกอย่าง

โดยทำงานกับหมู่กลุ่มหมู่มิตรดีหลายฐาน เอาภาระงานทางบ้าน และมีวิบากกรรมมาครอบจิตให้ทุกข์ ต้องชดใช้กรรมที่เคยเบียดเบียนผู้อื่นไว้เรื่องเสียง เมื่อมีหลายฐานงาน จึงได้พบปะเพื่อนหลากหลายที่ดึงดูดความเป็นตนเองในมุมมองต่าง ๆ เข้ามา และบางครั้งเจอคำพูดเชิงไม่เข้าใจจากพี่น้อง เช่น “จริง ๆ อยู่บ้านน่าจะว่าง”, “น่าจะทิ้งทางบ้านได้แล้ว เอาตัวเองก่อน”, “ทำงานขยะเนี่ยนะ” ฯลฯ ระลึกถึงที่ได้เคยปรึกษาหมู่มิตรดีในเรื่อง “ผัสสาหาร” จึงนำมาลองใช้ทันที คือ การประมาณการรับผัสสะจากช่องทางในการรับต่าง ๆ เหมือนการรับประทานอาหาร ที่เราจะต้องประมาณการบริโภค

เนื่องจากตอนแรกเข้าใจว่า การทำงานกับหมู่มิตรดีทุกฐานย่อมดี และเป็นการขัดเกลาตนเอง แต่หลายครั้งลืมตระหนักว่าพี่น้องแต่ละท่านมีหลากหลายฐานจิต ซึ่งหากเรายังมีปัญญาและอินทรีย์พละไม่มากพอ ก็ไม่ควรอวดดีคิดว่าสามารถจัดการใจตนเองได้ทั้งหมด ผลลัพธ์ออกมา คือ สภาพกายใจป่วย แต่เมื่อมองในแง่ดี และเริ่มพอที่จะสู้กับใจตนเองได้ จึงลองทิ้งงานบางส่วนไปก่อน เพื่อล้างโลกธรรมของตนเอง และตั้งใจใหม่ว่า จะทำเท่าที่ได้ กิเลสเรามันโง่ บางครั้งก็หลงตัวหลงตน หลงนึกว่าหากขาดตนเองไปแล้ว งานนี้งานนั้นจะพลอยเสียหาย ไม่มีคนทำ

แต่จริง ๆ นั้นเราก็ได้เรียนรู้มาหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า เราเป็นเพียงแค่เม็ดทรายบนพื้นโลกนี้ เป็นแค่จุดเล็ก ๆ ที่กลายเป็นทางให้ผู้คนบนโลกนี้เท่านั้น งานจะมีเราหรือไม่มีเรา ก็ไม่เห็นเป็นไร ก็จะมีผู้ที่มีบุญสัมพันธ์เข้ามาทำงานต่อไป ไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับตัวเองขนาดนั้น นี่แหละที่เรียกว่า “โรคหลงตัวเอง”

หลังจากได้พักร้อน ทำงานเท่าที่ทำได้ ผ่อนคลายจากสิ่งต่าง ๆ ทำแต่สิ่งที่รู้สึกว่าไม่หนักจนเกินไป เมื่อวิบากหมด ก็ทำให้กลับมามีพลังใจและกายอีกครั้ง ลองประมาณการทำงานใหม่ ในการกลับมาร่วมทำงานกับกลุ่มรวงข้าวรอบนี้ มีความผาสุก มีรอยยิ้ม รู้สึกขอบคุณพี่น้องทุกท่านในกลุ่มที่ให้โอกาสตนเองกลับมาทำงานอีกครั้ง

หลายอย่างก็ยังตามไม่ทัน ทุกท่านก็เมตตาคอยบอกคอยสอน แต่ก็มีเรื่องตื่นเต้นเร้าใจอยู่พอสมควรในงานบทความ ชื่อเรื่อง “อาหารเป็นหนึ่งในโลก การกินมื้อเดียวเป็นหนึ่งหล้า” เพราะเป็นการรีวิวรายการครั้งแรก และก็มีกิเลสอยากเล่นคำในบทความ จึงทำให้มีคำเสนอแนะจากพี่น้องหลายท่าน พี่น้องในกลุ่มรวงข้าวจึงเอาภาระไปหารือปรึกษากับท่านคุรุในที่ประชุมให้

ตอนแรกรู้สึกกังวลว่าจะทำให้หมู่กลุ่มยุ่งยากหรือไม่ แต่เถียงกับกิเลสว่า การรีวิวรายการแบบนี้ยังเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยทำกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องหาข้อสรุปว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพื่อเป็นประโยชน์ในการทำงานครั้งต่อไป พอคิดได้แบบนี้ ใจก็วางมีรอยยิ้ม ใจรู้สึกแค่ว่า “ให้เป็นไปตามธรรม” หากหมู่กลุ่มไม่เห็นด้วย ใจเราพร้อมน้อมรับ เราจะไม่ดื้อเด็ดขาด

ได้วางการเอาดีที่อยากจะให้ได้ดั่งใจหมาย ด้วยเชื่อมั่นศรัทธาว่า หมู่กลุ่มจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในเวลานั้น ๆ เสมอ สุดท้ายได้คำตอบที่ชื่นใจแต่ต้องคอยวางใจว่า “ผ่านฉลุย” ทำงานแล้วได้ฝึกอยู่กับความไม่เที่ยง วางดีได้อยู่ตลอด สนุกมาก ๆ ครั้งนี้

แต่ก็ยังมีกิเลสตัวเล็กตัวน้อยเข้ามา เช่น เกรงใจพี่น้องที่ต้องคอยแก้บทความให้หลายจุด เป็นห่วงพี่น้องท่านหนึ่งที่หายไป เนื่องจากติดภารกิจ และก็ยังมีกิเลสที่ยังไม่เข็ดกับการอยากเขียนบทความได้เยอะ ๆ แต่ก็พยามพากเพียร วางใจให้ได้ทุกตัว เร็วบ้างช้าบ้าง หมดบ้างไม่หมดบ้าง แต่ก็รู้สึกโชคดีผาสุกที่ได้ทำงานร่วมกับทุกท่านค่ะ สาธุ


5. ประคอง เก็บนาค (คอง)

อายุ 44 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 8 ภาคเหนือ อาศัยอยู่ จังหวัดเชียงราย

ระหว่างการร่วมกันตวรจงานสัปดาห์นี้ กิเลสความเอาแต่ใจตัวเอง กิเลสดื้อโง่ ได้โผล่ออกมาให้เห็นอีกแล้ว พิจารณาเห็นความสียใจ ความละอายใจที่แสดงอาการของกิเลสออกไปทางกาย วาจากับหมู่พี่น้อง ซึ่งก็ได้พิจารณาล้างความทุกข์ใจนั้น

โดยพิจารณาถึงบททบทวนธรรมของท่านอาจารย์หมอเขียวอยู่หลายบท จึงสามารถทำให้กิเลสอ่อนแรงและสงบลง

ตั้งจิตขอโทษ ขออโหสิกรรมและร่วมอนุโมทนาสาธุ ในบุญกุศลของหมู่กลุ่มในทุก ๆ การบำเพ็ญ ขอขอบพระคุณหมู่มิตรดีที่เมตตาไม่ถือสา และคอยชี้ทางให้สัมมาทิฏฐิมาตลอด ตัวเองจะขอน้อมนำและระลึกถึงคุณงามความดีของทุก ๆ ท่านตลอดไป


6.ขวัญจิต เฟื่องฟู (สร้างสงบ)

อายุ 42 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ อาศัยอยู่ ประเทศเยอรมนี

ครั้งนี้ส่งการบ้านแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ร่วมตรวจด้วยจนจบเพราะติดภารกิจกับพ่อบ้าน ตอนเเรกคิดว่าเราอาจจะได้เข้าไปร่วมตรวจงานกับพี่น้องช้าหน่อยเพราะนัดกับพ่อบ้านไว้

ก่อนเริ่มตรวจงาน 10 นาที พ่อบ้านบอกว่า เดี๋ยวช่างเขาจะมา รอก่อนนะ ระหว่างรอพ่อบ้าน ได้เข้าไปร่วมฟังพี่น้องคุยกัน เเต่ฟังได้ไม่นาน พ่อบ้านก็กลับมา ครั้งนี้ได้ดูใจตัวเองว่ายังมีห่วงหน้า พะวงหลังอยู่หรือเปล่า เห็นว่าไม่มี ใจสงบ ราบเรียบ

เราทำงานส่งเเล้วก็วาง มีความเชื่อมั่นในพี่น้องหมู่กลุ่ม อนุโมทนาสาธุกับพี่น้องทุกท่านค่ะ สาธุ


7. ณัฐพร คงประเสริฐ (ต้อม) ร้อยรักธรรม

อายุ 53 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 3 จ.ปทุมธานี อาศัยอยู่ กทม

ในสัปดาห์นี้ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับพี่น้อง เพราะติดภารกิจกับหลานชาย ก็วางใจได้ และตรวจใจ ดูใจไป ก็พบว่าไม่มีความหวั่นไหว ไม่ยึดติดใด ๆ พร้อมวางเมื่อไม่มีเวลา พร้อมทำตามกำลังที่มี อย่างเต็มกำลัง

และ มีความมั่นใจ ในความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องที่ร่วมทำงานกันมาจนถึงสัปดาห์ที่ 12 แล้ว ว่าจะสามารถสานพลังกัน ทำการงานของหมู่กลุ่มได้สำเร็จ ตามที่ทำกันมาได้อย่างแน่นอน

พี่น้องเอาใจใส่ เอาภาระกันตามกำลัง ขออนุโมทนากับทุก ๆ การบำเพ็ญของพี่น้องทุกท่านค่ะ


8. วันยา เรียนจันทร์ (อี๊ด)

อายุ 45 ปี จิตอาสาสังกัด สวนป่านาบุญ 3 จ.ปทุมธานี อาศัยอยู่ จ.สุรินทร์

อนุโมทนา สาธุ กับพี่น้องทุกท่านค่ะ แค่นี้ก็สุขใจมากแล้ว พยายามเข้ามาติดตามข้อมูลอยู่เสมอ แม้ไม่สะดวกเข้าร่วมประชุมด้วย ได้เห็นหน้า เห็นพี่น้อง มีรอยยิ้ม ก็สุขใจมากแล้วค่ะ

บทความแนะนำ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *