640320 สภาวธรรม พี่น้องกลุ่ม รวงข้าว
สภาวธรรมที่ได้จากการทำงานกลุ่ม เป็นการฝึกงานเขียนที่คุรุสอนไปในตัว คนละอย่างน้อย 3-5 บรรทัดขึ้นไปค่ะ
1.ขวัญจิต เฟื่องฟู (สร้างสงบ)
อายุ 42 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ อาศัยอยู่ ประเทศเยอรมนี
วันนี้วันเสาร์ตรวจงานเหมือนเช่นเคย รู้สึกว่าตัวเองมีพลัง ขนาดทั้ง ๆ ที่ตื่นตั้งเเต่ตีสอง เพื่อสอบภาษาอังกฤษ เห็นใจตัวเองตื่นเต้นที่จะได้พูดภาษาอังกฤษ เเต่ก็ก้าวพ้นความกลัวในข้อนี้ไปได้ด้วยดี ก่อนเข้ามาร่วมตรวจงานกับพี่น้องกลุ่มรวงข้าวยี่สิบนาที ได้เข้าไปคุยในกลุ่มพลังศีล พี่น้องในกลุ่มให้ข้อมูลมาว่ามีสอบวันนี้ ! พร้อมกับส่งคลิปที่ท่านอาจารย์เทศน์มาด้วย เพื่อดูติวก่อนสอบ เเละบอกว่าสอบตอนทุ่มหนึ่งเวลาเมืองไทย เห็นใจตนเองที่มีอาการเริ่มห่วงหน้าพะวงหลัง ว่าจะไปดูคลิปเพื่อเตรียมสอบดี หรือจะเข้าไปตรวจงานกับพี่น้องกลุ่มรวงข้าวดี ตัดสินใจไม่ถูก ระหว่างที่คุยกันกับพี่น้องกลุ่มพลังศีลไป ใจมันพยามยามหาทางเเก้ปัญหาว่าเราจะตัดสินใจยังไงดี อยากถามพี่น้องกลุ่มรวงข้าวว่าเราจะเลื่อนการตรวจงานเป็นวันอื่นดีไหมหรือยกเลิก กิเลสเริ่มตีกัน พี่น้องพลังศีลท่านหนึ่งเเนะนำว่า เขียนไปถามพี่น้องดูซี ว่าหลังตรวจงานติวข้อสอบด้วยได้ไหม กิเลสว่องไวเขียนถามไปทันที พี่น้องกลุ่มรวงข้าวตอบมา ดี ๆ เราติวข้อสอบพร้อมกัน
วันนี้เราไม่ตรวจงานกันเยอะ เพื่อให้มีเวลามาช่วยกันติวข้อสอบ พี่น้องช่วยกันบอกเเละติวกันเต็มที่ เเต่เห็นใจตัวเองที่มันไม่อยู่กับตัว มีอาการเกร็ง ๆ เข้ามาด้วยเพราะคิดว่าเวลากะทันหันเราไม่ได้เตรียมตัว ความจำเราไม่ดีขนาดนั้นเราจำไม่ได้หรอก เเต่ก็บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรลองทำดู
พอเข้าห้องสอบเห็นพี่น้องกลุ่มรวงข้าวสองท่าน พี่น้องกลุ่มพลังศีลหายไปไหนหมดใจตกเล็กน้อย บอกกับตัวเองว่า เราเข้ามาเเล้วก็ทำเถอะ จะเอาอะไรจะกลัวไปทำไม เวลาตายก็ตายคนเดียวเราต้องอยู่คนเดียวให้ได้ ใจก็คลายเบาลง
พอลงมือทำข้อสอบ อ่านเเล้วมึนตึ๊บเลย ข้อหนึ่งถึงสิบก็ยังพอเดาได้เเต่พอเจอข้อสอบอัตนัยที่เกี่ยวกับท่านพ่อครูตอบไม่ได้เลย นั่งคิดว่าจะส่งกระดาษกลับไปเเบบเปล่า ๆ หรือทำไงดีหนอ เลยตัดสินใจเขียนไปว่า “ลูกตอบไม่ได้ค่ะ ” เห็นว่าตัวเองอายที่เขียนประโยคนี้ออกไป เเต่นั่นคือความเป็นจริง เราได้ล้างตัวโลกธรรม เราได้เข้าร่วมสอบเป็นพลังกับพี่น้อง เราทำได้เท่านี้ก็ดีมากเเล้ว พอคิดได้อย่างนั้นใจมันเบาคลายลงเเละนั่งรอเพื่อส่งข้อสอบ ดูเวลาทำข้อสอบประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง อนุโมทนาสาธุกับพี่น้องทั้งกลุ่มเลยค่ะ
2. พรพรรณ เอ็ทสเลอร์ (พร)
อายุ 48 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ อาศัยอยู่ ประเทศเยอรมนี
วันนี้พวกเรารู้สึกครึกครื้นและอบอุ่นเป็นพิเศษ หัวข้อหลักในวันนี้ไม่ใช่ตรวจการบ้านเสียแล้ว แต่เป็นหัวข้อติวข้อสอบเพราะอีกไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็จะมีการสอบของ ว.บบบ. และสถาบันวิชชาราม
พวกเราต่างช่วยกันตรวจการบ้านด้วยความรอบคอบและขัดแย้งกันแต่พองามเหมือนทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมาแต่ครั้งนี้ตัวเองจับความรู้สึกได้ว่า การบ้านของตัวเองไม่ควรจะเว้นวรรคในประโยคมากจนเกินไปก็คิดว่าจะนำไปแก้ไขในครั้งต่อ ๆ ไปค่ะ
งานของกลุ่มพวกเรามีเยอะเหมือนเช่นเคย พี่น้องท่านหนึ่งเลยเสนอว่างานกลุ่มควรจะทำส่งประมาณ 15 งานต่อสัปดาห์ดีไหม เพื่อพวกเราจะได้ไปมีเวลาทำการบ้านวิชาอื่นด้วย ตัวเองเห็นใจที่แสดงอาการใจเบาเกิดขึ้นทันที เพราะ2 สัปดาห์ที่ผ่านมารู้สึกได้เลยว่าตัวเองทำงานเยอะจนบางครั้งก็แอบนึกอยู่เหมือนกันว่า จะเสนอกลุ่มว่าพวกเราควรจะมาคุยกันถึงเรื่องปริมาณงานกลุ่มพวกเราดีไหม พอดีได้จังหวะที่พี่น้องท่านเสนอพวกเราก็ได้ตกลงเห็นดีด้วยที่ 15 งานต่อสัปดาห์
หลังจากที่พวกเราตรวจงานได้เพียงไม่กี่งานเลยมีมติว่ามาติวข้อสอบกันเถอะ โห่ บรรยากาศติวดีมากเลยแต่สมองตัวเองไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น “เป็นศูนย์เลย” สอบครั้งนี้มีหวังคงต้องส่งกระดาษคำตอบแบบขาวสะอาดอย่างแน่นอน พอเห็นข้อสอบก็พยายามอ่านและอ่านอยู่หลายรอบ สุดท้ายก็มาจบที่คำตอบ “ไม่ทราบค่ะ” ส่วนข้อสอบกากบาทพอเดาได้
สัปดาห์นี้มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองทั้งรู้สึกผ่อนคลายและตึงเครียดในเวลาเดียวกัน แต่ก็รับรู้ได้ว่าหลังจากวางใจให้สบายได้แล้วใจก็เบาสบาย เพราะพวกเรามาทำงานฟรี มาล้างกิเลสเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณด้วยกันทั้งนั้น
ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้องทุกท่านค่ะ สาธุ
3. สุดใจ โสะหาบ (นิด)
อายุ 54 ปี นักศึกษาวิชชาราม บ้านเกิดเป็นคนจังหวัดตรัง แต่ปัจจุบัน ทำงานบริษัทอยู่ที่ กทม.
วันนี้เข้าห้องตรวจงานช้านิดหนึ่งรู้สึกเพลีย ๆ วันนี้ตื่นตี 4 ทำกับข้าวกินข้าวตอนเช้ามื้อเดียวจบ จากนั้นลงไปทำแปลงผักในสวน 9.30 น.ขึ้นมาเรียนภาษาอังกฤษต่อ ครั้งนี้คุรุเอ๋ให้แนะนำตัวซึ่งตัวเองได้เตรียมประโยคที่จะพูดไว้บ้างแล้ว แต่เวลาพูดให้คนอื่นฟังตื่นเต้นทุกครั้งเป็นอย่างนี้ประจำแก้ไม่หายเป็นวิบากกรรมจริง ๆ เคยตั้งจิตขอโทษขออโหสิกรรมและตั้งจิตทำดีหยุดสิ่งไม่ดีจะลดกิเลสตัวเองให้มากขึ้นเท่าที่ทำได้
แต่บางครั้งเรายังใช้ชีวิตอยู่กับโลกภายนอกมันก็มีบางครั้งที่เราทำไม่ได้เท่าที่ควร ทำให้เสียพลังทั้งที่ทำใจยอมรับว่าสิ่งที่เราได้รับคือสิ่งที่เราทำมา ไม่มีสิ่งที่เราได้รับโดยที่เราไม่เคยทำมา มันก็ยังไม่หายตื่นเต้น
แต่ถ้าเราไม่แก้ไขมันก็เป็นอย่างนี้ไปตลอด เลยตัดสินใจแก้ไขพัฒนาตัวเองในทุกเรื่องอาจจะทำไม่ได้ชาตินี้ก็ชาติหน้าเลย ขอโอกาสน้อง ๆ พี่คนนี้ไม่มีความสามารถในงานพวกนี้เลยอาจจะเรียนรู้ไปได้ช้า ซึ่งอาจจะมีผลต่องานในกลุ่มบ้างพี่ต้องขอโทษน้อง ๆ ด้วยค่ะ แต่ก็จะพยายามเรียนรู้เพื่อจะได้พัฒนาตัวเองเท่าที่ทำได้หากน้อง ๆ ท่านใดมีอะไรชี้แนะก็แนะนำได้ค่ะ สาธุค่ะ
4. อรวิภา กริฟฟิธส์ (อร)
อายุ 52 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 6 ต่างประเทศ อาศัยอยู่ ประเทศออสเตรเลีย
สภาวธรรมในสัปดาห์นี้คือ ลืมไปเลยว่าวันนี้มีนัดตรวจงานกัน พอดีเห็นในไลน์พี่น้องกลุ่มรวงข้าวกำลังตรวจงานกันอยู่ พอเลิกงานก็เลยเข้ามาร่วมกับพี่น้องด้วย วันนี้มีอาต้อมด้วย เลยรู้สึกว่ากลุ่มเรามีพลังเพิ่มขึ้นหลังจากที่ท่านหายไปเพราะมีธุระไม่สะดวกเข้ามาร่วมในกลุ่ม
ในวันนี้เราไม่ได้ทำแต่งานตรวจการบ้านเท่านั้น แต่เรายังได้ช่วยกันติวข้อสอบด้วยซึ่งก็เป็นการดี จากที่ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเอาอะไรไปสอบแต่พอได้คุยกับพี่น้องทำให้สบายใจขึ้น แต่ก็ได้ทำใจไว้แล้วล่ะว่าไม่ว่าผลสอบจะเป็นอย่างไร เราก็จะร่วมสอบถือเป็นการร่วมบำเพ็ญสานพลังกับหมู่มิตรดี
เสาร์นี้เป็นเสาร์ที่ใช้เวลาคุ้มค่าที่สุดเลยตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนตีสองค่ะสาธุ
5. ศิริพร คำวงษ์ศรี (หมู)
อายุ 35 ปีสังกัด สวนป่านาบุญ 9 จ.สุพรรณบุรี อาศัยอยู่ กทม
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แห่งการดูแลผู้ป่วย เพราะคุณป้าและคุณพ่อเข้าโรงพยาบาล ต้องไปโรงพยาบาลแทบทั้งวันในบางวัน และมีงานออกกองไปทำรายการกับพี่น้องที่จังหวัดในแถบปริมณฑล จริง ๆ มีกิเลสคาดหวังกับตนเองไว้ว่า จะต้องส่งงานไปอย่างน้อย 3 บทความ และอยากลงเรื่องขยะที่ตั้งใจไว้สักที แต่เราก็ต้องใช้เวลาเรียบเรียงข้อมูล ไม่อยากทำแบบขอไปที เลยต้องใช้เวลา แต่หลายอย่างเวลามันบีบ ๆ พอไปกัวซาให้ผู้ป่วย หรือจัดการนั่นนี่ รู้สึกหมดแรงจึงรู้สึกอยากพัก ยังดีที่มีงานเนื้อปลีตุ๋นถั่วแดงที่เคยดองเอาไว้ เลยได้มีงานร่วมกับหมู่บ้าง ก็แอบมีกิเลสเสียใจนิด ๆ ที่ทำงานได้แค่ 1 บทความเท่านั้น
แต่พอได้เข้ามาประชุมกับพี่น้องแล้วรู้สึกดีใจมาก ที่รู้ว่าพี่น้องส่งบทความกันมาเยอะมากถึง 17 บทความเลยยิ้มได้ และเชื่อมั่นในแรงบุญที่สมดุลมาก ๆ พอสัปดาห์ที่เรามีเวลาสามารถทำงานบทความได้เยอะเราก็ทำ แต่พอเราไม่สะดวกทำธรรมะจัดสรรให้พี่น้องส่งงานกันมาเยอะมาก จึงสมดุลในช่วงที่เราทำไม่ได้เยอะไม่มีอะไรบังเอิญ แต่ก็พยายามวางใจไว้ว่า ทำเท่าที่ทำได้ อย่าโลภไปนะกิเลส งานจะเยอะหรือน้อย จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ก็ไม่เป็นไร ให้เราฝึกวางใจให้ผาสุกในการทำงานในทุกกลุ่ม เพื่อส่งพลังงานดี ๆ ออกไปให้เป็นแรงเหนี่ยวนำต่อเราและโลก นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด มากกว่านั้นพี่น้องก็ยังมาชวนกันติวข้อสอบในกลุ่ม และยังเอาภาระในการตรวจงานให้ด้วย อะไรจะดีขนาดนี้ เย่ ๆ สาธุ
6. ประคอง เก็บนาค (คอง)
อายุ 44 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 8 ภาคเหนือ อาศัยอยู่ จังหวัดเชียงราย
สภาวธรรมในการบำเพ็ญงานแอดมินฝึกหัด ในสัปดาห์นี้ส่งงานเรื่องอาหารสุขภาพแพทย์วิถีธรรมเพียงงานเดียว ตรวจใจดูก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวหรือเสียดายอะไรที่ส่งงานได้น้อย อย่างน้อยได้มีส่วนเติมพลังให้กับกลุ่มพี่น้องก็ดีมากแล้ว เราจัดสรรเวลาทำกิจการงานต่าง ๆ ตามภาระหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ก็ควรยินดีในสิ่งที่ตนเองได้ทำแล้ว
สัปดาห์ก่อนเห็นกิเลสความเอาแต่ใจของตนเองในฐานที่ตนเองเป็นผู้นำเสนอการตรวจงานและเป็นผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้องานตามที่หมู่กลุ่มได้ร่วมกันสังเคราะห์ สัปดาห์นี้จึงขอปรับเปลี่ยนไม่ทำหน้าที่ในฐานนั้น ซึ่งแม้ไม่ได้ทำเองแต่ก็ยังจับกิเลสความละเอียดถี่ถ้วน ความยึดในความถูกต้อง ระบบระเบียบแบบไม่ให้เล็ดลอดสายตา ไม่ยอมปล่อยให้งานพร่อง เมื่อเห็นและจับอาการได้ก็สามารถวางได้ในความคิดเห็นหรือข้อเสนอบางเรื่องของพี่น้องท่านอื่นที่มีความเห็นแตกต่างจากที่เราคิด ยอมรับในมติหมู่ที่เกิดขึ้น การตรวจงานยังไม่เสร็จเรียบร้อยทั้งหมด พี่น้องในกลุ่มเสนอให้ติวข้อสอบที่จะร่วมสอบกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ซึ่งตัวเองได้คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าคงไม่ร่วมสอบ เพราะมีงานของครอบครัวที่ต้องไปทำในช่วงค่ำ แต่พอได้ร่วมติวกับพี่น้องไปเรื่อย ๆ เห็นถึงพลังเหนี่ยวนำของหมู่จึงเปลี่ยนใจไปร่วมสอบด้วย
เหตุที่ไม่คิดว่าจะร่วมสอบมีหลายประการ ย้อนไปในครั้งแรกที่มีการสอบ ว.บบบ. ก่อนการสอบมีพี่จิตอาสาท่านหนึ่งได้บอกว่า การสอบว.บบบ.นั้นเราไม่ควรเดาหรือมั่วในคำตอบ เรารู้เราก็ตอบไป เราไม่รู้ก็ไม่ต้องตอบต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง เมื่อถึงเวลาสอบเราก็ตั้งใจสอบข้อที่รู้ก็ตอบ ข้อที่ไม่รู้เราก็ว่างไว้ เมื่อถึงเวลาตรวจข้อสอบปรากฏว่าให้ทำให้ครบทุกข้อ แม้ข้อที่ไม่รู้ก็ให้ประมาณตอบไปได้ อีกทั้งข้อสอบก็เกี่ยวกับความรู้ความจำคำในภาษาบาลี ซึ่งเราเองไม่มีความถนัดและไม่ค่อยจำภาษาบาลีเหล่านั้น ทั้งยังไม่ค่อยได้ฟังธรรมะจากพ่อครูหรือท่านสมณะท่านต่าง ๆ ปกติหากพอจัดสรรเวลาได้ก็จะฟังธรรมะจากท่านอาจารย์หมอเขียว หรือครูบาอาจารย์ที่บรรยายธรรมแบบยกตัวอย่างเหตุการณ์ในปัจจุบัน หรือตัวอย่างการกระทำที่ควรทำ ที่ควรนำไปปฏิบัติได้จริง ๆ หรือเรื่องราวในพระไตรปิฏกที่ท่านแปลเป็นภาษาไทยเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ค่อยได้พูดถึงภาษาบาลีมากนัก
เมื่อถึงเวลาสอบ มีข้อสอบ 10 ข้อของ ว.บบบ. เป็นไปตามคาดที่เป็นศัพท์บาลีทำไม่ได้เลยสักข้อ แต่ก็ประมาณตอบไปให้ครบทุกข้อ ส่วนข้อสอบอัตนัยที่ถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่ท่านพ่อครูได้เทศน์ ตนเองก็ยิ่งตอบไม่ได้เลยสักข้อเช่นกัน ด้วยความที่เป็นข้อสอบให้เขียนตอบไม่มีตัวเลือกให้ตอบ จึงเขียนตอบไปว่า “ข้อสอบอัตนัยทำไม่ได้ค่ะ” ตรวจใจตัวเองดูก็ไม่ได้รู้สึกอับอาย เสียใจ เสียดายอะไร ก็เราทำไม่ได้เราตอบไปตามความจริง ท่านอาจารย์หมอเขียวกล่าวว่า ให้เสียชีวิตยังดีกว่าเสียศีล เราทำไม่ได้ก็ตอบตามจริงจะไปโกหกทำไม ผิดศีลข้อสองนะ ส่วนข้อสอบปรนัยที่เดาคำตอบไปก็เนื่องจากกติกาเขาให้ทำให้ครบทุกข้อ เราก็ทำไปตามฐานที่เรามีความรู้บ้างนิดหน่อย ซึ่งจะถูกหรือจะผิดก็ไม่ได้คาดหวังกับตัวเลขคะแนนนั้นหรอก
ตอนที่สอบข้อสอบของสถาบันวิชชาราม ข้อสอบปรนัย 10 ข้อ ก็ยังเจอกับภาษาบาลีอีก เหมือนมาตอกย้ำความไม่รู้ของตัวเราเองอีก แต่ก็ตอบไปจนครบ จนมาถึงข้อสอบอัตนัย 3 ข้อ แม้จะติวกับพี่น้องมาบ้างแล้วสด ๆ ร้อน ๆ ก่อนเข้าสอบ พอถึงเวลาทำจริง อ่าวลืมซะงั้น คิดเท่าไหร่ก็ยิ่งมึน ยิ่งมืด ก็ลงมือเขียนเท่าที่พอจำได้บ้าง ยิ่งข้อสอบบททบทวนธรรม ตอนติวก็เลือกคัดมาเฉพาะข้อที่สั้น ๆ มีคีย์เวิร์ดซ้ำกันหลายข้อเพื่อให้ง่ายในการจำ พอตอนสอบจำได้สองข้อ อีกสามข้อตอบตามที่เคยได้ท่องมาแต่เก่าก่อน อีกเรื่องคือด้วยความที่รีบเขียนกลัวจะลืม ความคิดไปไวกว่านิ้วมือ ทำให้ตัวหนังสือที่ออกมาหัวหางพันกันไปหมด ประมาณแล้วว่าคงจะอ่านได้คนเดียวหรือแม้แต่เราเองก็ยังจะอ่านไม่ออก จึงลงมือเขียนด้วยตัวบรรจงที่สุดในชีวิต มือเกร็ง เหงื่อออกที่มือจนชุ่มไปหมด รู้สึกปวดมือ ปวดเกร็งไหล่ ความรู้สึกเหมือนได้ทำข้อสอบสองรอบ แต่ก็เขียนเสร็จก่อนหมดเวลา 1 นาที ตรวจใจรู้สึกเบาสบาย ไม่ห่วงกังวลใด ๆ การสอบครั้งนี้ทำด้วยใจตั้งมั่นในศีล บริสุทธิ์ทั้งกายใจไม่เผลอไปเปิดหนังสือบททบทวนธรรมแม้จะวางอยู่บนโต๊ะ ไม่ไปเปิดดูข้อความในไลน์แชทที่บางทีอาจจะเห็นคำตอบ รู้สึกอิ่มเต็มในศีล ผลสอบจะออกมาอย่างไรก็พร้อมยอมรับ และยินดีที่ได้รวมพลังกับพี่น้องในการสอบครั้งนี้ สาธุ
7. ณัฐพร คงประเสริฐ (ต้อม) ร้อยรักธรรม
อายุ 53 ปี สังกัด สวนป่านาบุญ 3 จ.ปทุมธานี อาศัยอยู่ กทม
ในสัปดาห์นี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 13 แล้ว ที่เราร่วมทำกิจกรรมการงาน ด้าน Content Admin กันมา เรามีนัดมาเจอกันทุกวันเสาร์เวลา 16.00-18.00 น.ก่อนถึงเวลา มีกิจกรรมสนุก ๆ มาตั้งแต่ช่วงสายของวัน คือมีห้องเรียนภาษาอังกฤษครั้งที่ 2 พอเรียนเสร็จวางแผนจะออกไปทำธุระส่วนตัวก่อน ก่อนจะออกไปก็ได้เตรียมข้อมูลเพื่อทบทวนก่อนสอบ เพราะอาจารย์ให้ธงแต่เช้า ให้เตรียมตัวทบทวน เรื่อง กถาวัตถุ 10 บททบทวนธรรม และศีลมีความสำคัญอย่างไรมาก่อนเลย
เวลาก็ล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว ถ้าจะออกไปทำธุระคงกลับมาเฉียดฉิวหรือไม่ทันประชุม จึงขยับแผนไปไว้วันรุ่งขึ้นแทน และทบทวนเนื้อหาที่จะสอบค่ำนี้ได้เพิ่มขึ้น นึกถึงพี่น้องในกลุ่มจึงพิมพ์ข้อมูลสรุปส่งไปให้พี่น้องในกลุ่มช่วยอ่านว่าถูกต้องไหม พี่น้องที่สนใจจะได้ทบทวนไปด้วยกัน
พอถึงเวลาพี่น้องก็ทยอยกันเข้ามารวมพลังกัน ต่างก็พากันช่วยตรวจการบ้านอย่างขะมักเขม้น และเบิกบานมีพลัง ระหว่างตรวจการบ้านพี่น้องได้พูดคุยกันถึงหัวข้อที่สนใจอยู่ เช่น เรื่องการสอบและตรวจการบ้าน โดยเริ่มจากท่านใดเข้ามาก่อนก็ให้ตรวจก่อนเลย การตรวจการบ้านด้วยกันมีประโยชน์มาก เพราะระหว่างที่พี่น้องช่วยกันพูดถึงงานเราหรืองานท่านต่าง ๆ เราก็อ่านใจ ตรวจใจไปด้วยพร้อม ๆ กัน ยอมให้เพื่อนติได้เต็มที่ ให้เพื่อนเข้าใจผิดบ้างก็ได้ มีแต่ได้กับได้ คนทั่วไปคงนึกไม่ถึง โชค 3 ชั้น และไม่ติดลบอีก 3 ชั้น ถ้าเราขาดสติหลงไปเป็นพวกเดียวกับกิเลส ต้องซวย 6 ชั้นเลยที่เดียว
สังคมหรือองค์ประกอบแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ แต่ทุกอย่างก็ไม่เที่ยง เรามีวันดี ๆ แบบนี้ก็ดีมากแล้ว เก็บประสบการณ์ไป การได้มาพบกันก็เพื่อจากกัน พอตรวจการบ้านไปได้ราว ๆ 1 ใน 3 แล้ว ก็รู้สึกเห็นใจพี่น้องหลายท่านที่เป็นห่วงเรื่องการสอบ จึงเสนอให้หมู่พิจารณายุติการตรวจการบ้านไว้และจะรับไปตรวจเอง แต่ก็ได้แจ้งพี่น้องว่าหากมีอะไรต้องแก้ไขเล็กน้อยจะขอโอกาสแก้ไขไปเลย เช่น คำเขียนผิด เขียนวน ใส่ข้อมูลไม่ครบหรือเกิน และอื่น ๆ ก็เป็นข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่งานทำเว็บ คุรุก็สอนว่าไม่ควรให้ผิดพลาดหากเป็นไปได้ เพราะการกลับมาแก้ยุ่งยากกว่า ให้พี่น้องได้ติวสอบกัน
ประสบการณ์การสอบก็มีมาตั้งแต่เป็นนักเรียนนักศึกษาแล้ว แต่การสอบครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ประหยัดครูคุมสอบ เพราะใช้ใจของเราเองที่มีศีลมาวัด วัดกิเลสว่าจะโผล่มาลีลาไหน จะจัดการอย่างไรให้ใจผาสุกให้ได้ ผลคือสอบผ่านแล้วค่ะ ใจไม่ทุกข์ กิเลสไม่ดิ้นไม่กังวล มาทำเต็มที่ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น วัดความรู้ไม่ยากหรอก ไม่รู้ก็ท่องก็อ่านเข้าไป วัดชั่วโมงบินในตอนสู้กับกิเลสยากกว่าเยอะเลย รู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาที่ท่านสมณะและอาจารย์ สร้างองค์ประกอบไว้ให้ลูกศิษย์ได้ล่อกิเลสออกมา หมู่มิตรดีก็แสนน่ารักมุ่งมั่นพากเพียรกันเต็มที่เต็มกำลังแล้ว เห็นความเจริญแบบก้าวกระโดดของพุทธะ สาธุ ๆ ๆ
8. วันยา เรียนจันทร์ (อี๊ด)
อายุ 45 ปี จิตอาสาสังกัด สวนป่านาบุญ 3 จ.ปทุมธานี อาศัยอยู่ จ.สุรินทร์
เหตุที่เดือนนี้ทั้งเดือนเน้นหนักกันปฏิบัติลงพื้นที่ในชุมชน จึงพากเพียรมุ่งมั่นปฏิบัติหน้างานเป็นหลัก เมื่อมีเวลาก็แวะเปิดเข้าห้องรวงข้าวดูงานบำเพ็ญของพี่น้อง ก็รู้สึกยินดีกับพี่น้องในการบำเพ็ญร่วมกันแม้ตนจะไม่ได้ส่งงานและไม่ได้ช่วยอะไรเลย
สิ่งที่ได้จากการแวะเข้ามาในห้องรวงข้าวคือ ทำให้เราเห็นอัตตาในตนว่าก็เป็นความจริงที่พี่น้องท่านหนึ่งว่า พื้นที่ส่วนตัวท่านยังโพสต์หรือสื่อสารอยู่แต่พื้นที่ส่วนวิชชารามไม่ได้ส่งงานร่วมบำเพ็ญ
โดยส่วนตัวมีความคิดอย่างนี้ว่าการโพสต์หรือสื่อสารในพื้นที่ส่วนตัวรู้สึกปลอดภัย แต่กับองค์กรทำให้เราได้เห็นอัตตาตัวตนว่านี่คือเรานี่คือองค์กร ก็เลยสำรวจใจตนว่าการที่เราสื่อสารหรือโพสต์ในพื้นที่ส่วนตัว เราไม่ต้อง ไตร่ตรองพิจารณา ทบทวน เนื้อหาในการสื่อสารอย่างนั้นหรือ ก็หาไม่ เราได้พิจารณา ไตร่ตรอง ทบทวน อย่างดีที่สุด แล้วตามภูมิปัญญา ตามฐานะ ตามวิบาก ที่จะพึงทำได้ ณ เวลานั้น ๆ แล้วทำไมเราไม่สลายตัวตนแล้ว ส่งงานกับหมูเป็นหลัก ก็ copy งานในพื้นที่ส่วนตัวนั่นแหละมาให้พี่น้องขัดเกลา เออ ..ก็จริงนะ มันจะเสียองค์กรยังไง เพราะงานพี่น้องจะต้องขัดเกลาก่อนถึงจะสื่อสารเผยแพร่ออกไปข้างนอก
โง่จริง ๆ เลยเรา การมีอัตราตัวตน แล้วก็บ่น (ในใจ) อยากช่วยงาน ฮ่า ๆ เมื่อสำนึกและรู้สึกตัวได้อย่างนั้นจึงรีบส่งงานทันทีค่ะ ขอบคุณพี่น้องในห้องรวงข้าวที่ทำให้เห็นสภาวะและขอบคุณที่เป็นแรงเหนี่ยวนำพร้อมต้นแบบที่ดีค่ะ สาธุค่ะ