อาหารปั่นสุขภาพ : นงนภัทร จรินทร์
หลังจากที่ทดลองกินอาหารปั่นรักษาโรคสูตรแพทย์วิถีธรรม อาการไม่สบายหนักเนื้อหนักตัว มึน ๆ ที่เป็นอยู่ ก็หายไปตอนไหนไม่ทันรู้ตัวเลย
อาหารฤทธิ์เย็น มีฤทธิ์ร้อนเล็กน้อย
เวลาที่ใช้ในการทำอาหาร ประมาณ 45 นาที
ช่วงนี้ได้ยินอาจารย์หมอเขียวท่านเล่าว่า ปวดเหงือกแล้ว ลองกินอาหารปั่นสุขภาพ แล้วทำให้อาการปวดเหงือกของท่านหาย ซึ่งช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย ก็เลยไม่ค่อยสบาย รวมทั้งหลานด้วย ก็เลยทดลองทำอาหารปั่นรักษาโรคตามสูตรแพทย์วิถีธรรมกิน ผลปรากฏว่า กินแล้วดีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รสชาติก็ดีกินง่าย เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี หลานตัวน้อยชอบมาก สรุป เมนูนี้เหมาะกับผู้ป่วยหรือผู้ที่รักสุขภาพ เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี หวังว่า ทุกท่านจะได้นำเมนูนี้ ไปรักษาสุขภาพกันนะคะ
เมนูที่ 1 ผักผลไม้ปั่น (ใช้เวลาทำประมาณ 15 นาที)
วัตถุดิบ
1. กล้วยน้ำว้าสุก 1 ลูก (กล้วยสุกฤทธิ์ร้อน กล้วยห่ามฤทธิ์เย็น)
2. มะละกอดิบ เศษ 1 ส่วน 4 = 1 ชิ้น (มะละกอสุกฤทธิ์ร้อนมะละกอดิบฤทธิ์เย็น)
3. ผลไม้รสเปรี้ยว (ใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้)
4. ผักสลัดหรือผักอื่น ๆ ที่เป็นฤทธิ์เย็น
5. น้ำเปล่าน้ำสะอาด 2 แก้ว
วิธีทำผักผลไม้ปั่น
1. นำผักผลไม้ไปล้างให้สะอาด (ถ้าเป็นผักผลไม้ที่เราซื้อมาจากตลาด ล้างผ่านน้ำ 1 น้ำ แล้วนำมาแช่น้ำถ่านที่เราใช้หุงต้ม เอามาแช่ผักผลไม้ก่อนซัก 5 ถึง 10 ก้อน แช่ทิ้งไว้ 20 นาทีหรือ ถ้าเป็นน้ำซาวข้าว 20-30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง แล้วนำไปล้างน้ำสะอาด)
2. นำทุกอย่างมาหั่น แล้วปั่นรวมกันใส่ชิ้นที่ปั่นยากลงไปก่อน ถ้าผักผลไม้ปั่นข้นหรือเหนียวเกินไป ให้เติมน้ำลงไปอีกได้ แล้วปั่นให้ละเอียด
3. ตักเสิร์ฟได้ เมนูนี้ รับประทานก่อนอาหารปั่น
เมนูที่ 2 อาหารปั่นสุขภาพ (ใช้เวลาทำประมาณ 30 นาที)
วัตถุดิบ
1. ข้าวสุก (ข้าวสวยข้าวซ้อมมือ)
2. ถั่วต้ม
3. ผักสด นำมาหั่นเอาไปลวกหรือต้มให้สุก (ใช้ผักฤทธิ์เย็นใส่หลายอย่างได้)
4. ฟักทองต้ม ข้าวโพดต้ม หรือจะใช้มันเทศก็ใช้ได้
5. น้ำสะอาด หรือจะใช้น้ำต้มผักที่เราลวกผักแทนน้ำสะอาดก็ใด้
6. ถ้าน้ำต้มผักมีน้อยใช้น้ำเปล่าผสม ให้ดูความข้นความหนืดของการปั่นด้วย ทำเสร็จแล้วตักเสิร์ฟได้เลย
ประโยชน์ที่ได้รับจากอาหารปั่น
1. กินง่าย
2. ใช้เวลากินน้อยลง (เด็กทานง่าย)
3. ลดการเคี้ยว
4. ย่อยง่าย ร่างกายได้รับสารอาหารได้ดี และรวดเร็ว
5. กินแล้วเบากายมีกำลังฟื้นฟูสุขภาพได้ดี
ผลทางร่างกาย
หลังจากที่ได้ลองทำกินมาได้ 4 วัน รู้สึกสบายท้องอิ่มนาน ทำให้สามารถอยู่ได้ทั้งวันแม้กินข้าวมื้อเดียว อาการที่ไม่สบายหนักเนื้อหนักตัวอาการมึน ๆ ที่เป็นอยู่ ก็หายไปตอนไหน ไม่ทันรู้ตัวเลย (ดื่มน้ำสมุนไพรควบคู่ด้วย)
สภาวธรรม
ช่วงที่เริ่มกินได้ 2-3 วันแรกกินได้สบาย กิเลสไม่ดิ้นเลย ไม่รู้สึกคิดถึงหรือโหยหาอาหารที่เคยกินแบบเคี้ยวหรือแบบเป็นจาน ๆ พอเข้าวันที่ 4 กิเลสเริ่มมา เริ่มคิดถึงเมนูอาหารที่เคยกิน เช่นเมนูผัด ต้ม ที่เป็นเม็ด ๆ ชิ้น ๆ ก็เลยพิจารณาและคุยกับกิเลสว่า เมนูพวกนี้กินมาบ่อยแล้ว กินอันนี้แหละดีกินแล้วแข็งแรงออก จะไปกลัวอะไร แต่กิเลสมันยังไม่ยอม มันก็บอกว่า ขอเป็นผัดผักด้วยก็ได้นะ ทำให้คนในครอบครัวกินไง เอื้อเขา ก็บอกกิเลสไปว่ามันย่อยยาก กินแบบนี้ไปก่อนถ้าไม่ไหวจริง ๆ ค่อยกินอาหารผัด แต่พอเรากินแบบนี้อิ่มแล้ว ก็เลยไม่ต้องไปกินแบบผัด หรือตอนที่รู้สึกว่ามันโหย ๆ อยากกินเพิ่ม ตอนแรกก็คิดว่าหิว แต่พอตรวจไปมันไม่ได้หิว มันเป็นกิเลส มันบอกว่ากินแบบเป็นชิ้น ๆ มันจะได้อิ่มนาน เราก็บอกกเลสกลับไปว่า กินแบบนี้แหละอิ่มนาน
สรุป อาหารก็อยู่ได้ทั้งคืน โดยที่ไม่ได้กินอะไรเพิ่ม
สู้กับกิเลสนี่สนุกจริง ๆ เพิ่งรู้สึกตัวว่าอ้อดี๋ยวนี้เรารู้จักต่อสู้กับกิเลสได้แล้วนี่ เมื่อก่อนมีแต่แพ้มันตลอดเลย เดี๋ยวนี้เริ่มสู้ได้แล้ว ดีจริง ๆ แสดงว่าเราเจริญขึ้น