สภาวธรรมกลุ่มตะวัน : กานดา ศักดิ์ศรชัย
ชื่อทางธรรม เย็นพรพุทธ อายุ 72 ปี จิตอาสาสวนป่านาบุญ 8 จ. อุตรดิตถ์
กลุ่มตะวันรวมพลังประชุมอปริหานิยธรรมสรุปงานนอกและงานใน ก่อนวันตรวจงานการบ้านแอดมิน 2 ประจำสัปดาห์ที่ 5 ในวันที่ 5 พค. 2564
ก่อนเข้าประชุมได้ให้ความเห็นภาพประกอบสาระธรรมว่า น่าจะปรับตัวหนังสือให้ดูสดใสขึ้น ในขณะที่ส่วนใหญ่เห็นเหมาะสมแล้ว จึงเกิดสภาวะว่าสิ่งที่เราคิดมักจะไม่เหมือนคนอื่น ควรหยุดให้ความเห็นบ้างจะดีไหม ความคิดนี้ทำให้ต้องกลับมาตรวจดูว่ามีความไม่ชอบเกิดขึ้นหรือเปล่า ก็เหมือนจะมีหรือไม่มี จึงเริ่มต้นพิจารณาทบทวนสภาวะที่เกิดขึ้นจนเห็นว่า ที่รู้สึกเช่นนั้น เป็นกิเลสของเราที่ไปยึดว่า ถ้าเห็นเหมือนเราจะสุขใจ เป็นเรื่องที่เอาใจออกไปจัดการความเห็นของคนอื่น ไม่ใช่งานของเรา ควรรีบออกจากความคิดนั้นกลับมาดูที่ใจตัวเองว่าจะเอาอะไรที่ไม่ใช่ของตัวนั้นคิดผิด ในที่สุดสามารถวางใจได้ว่าความคิดต่างเป็นเรื่องธรรมดา ความเห็นที่ให้ออกไปก็จบลงเมื่อให้แล้ว “ให้ แล้วคิดที่จะไม่เอาอะไรจากใคร ให้ได้” ท่องได้แล้วก็ทำให้ได้ด้วย นี่ยังจะไปเอาเห็นด้วยอีก
เมื่อถึงเวลาประชุมกลุ่มตะวันได้นำประเด็นนี้มาพูดคุยกัน จึงเห็นความเห็นต่างของสภาวะที่เกิดขึ้นในแต่ละคน ซึ่งล้วนไม่ใช่อย่างเราคิด เป็นอย่างที่ อาจารย์หมอเขียวสอนว่า อย่าเดา เพราะเดาอย่างไรก็ไม่ถูกนั้นจริงแท้ การปรับความเห็นระหว่างกันเป็นไปด้วยดีกับการสนทนาธรรม ต่างคนก็ได้ประโยชน์ตนไป และคลายความขัดข้องใจไป รับรู้กิเลสที่แตกต่างกันไป ตามความยึดมั่นถือมั่นของแต่ละคนที่มีอยู่ จากผัสสะผ่านงานนอกนั้น และทำให้ได้ล้างความยึดมั่นถือมั่นของตนลงด้วยพลังหมู่กลุ่มกันทุกคนในที่สุดการประชุม และสนทนากันจนได้ข้อยุติ ในครั้งนี้ใช้เวลาในการประชุมน้อยกว่าทุกครั้ง
การเห็นกิเลสตัวยึดลักษณะนี้เคยคิดว่าหมดไปแล้ว ด้วยผัสสะในหมู่กลุ่มที่คุ้นเคยกันมากขึ้นเป็นสภาพของคนใกล้ตัว การถือสาจะเอาความเห็นด้วยจึงเห็นได้ชัด ถ้าเป็นหมู่ที่ไม่คุ้นเคยก็คงจับกิเลสตัวนี้ได้ยาก คนเราเมื่อคบคุ้นกันใหม่ ๆ ก็จะระวังตัวกลัวมารยาทตนจะไปล่วงเกินต่อกัน ต่อเมื่อคุ้นกันมากขึ้น กลับไปอยากเอาความเข้าใจต่อกันมากกว่าเดิม ขอบคุณและอนุโมทนากับความคุ้นเคยเหมือนญาติของพี่น้องกลุ่มตะวัน ที่ทำให้กิเลสแสดงตัวตนออกมาจนจับได้ และทำให้ได้ล้างกิเลสในครั้งนี้ สาธุค่ะ