รางน้ำพอเพียง : แสงอรุณ สังคมศิลป์ (แสงอรุณ)
จิตอาสาประจำชุมชนภูผาฟ้าน้ำ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ภูผาฟ้าน้ำ ช่วงนี้ฝนตกหนัก และทางที่ปรับปรุงใหม่ดินยังไม่แน่นพอ เมื่อฝนตกทำให้ถนนถูกน้ำเซาะพังหลายสาย อาจารย์หมอเขียวจึงได้คิดค้น นวัตกรรมทำทาง ซ่อมถนนโดยใช้พลังความสามัคคีของพี่น้องจิตอาสา ตั้งชื่อให้ว่า “รางน้ำพอเพียง” เป็นการทำรางน้ำให้น้ำไหลลงไปสู่คลองหรือร่องน้ำ ช่วยลดการพังทลายของถนนจากการกัดเซาะของน้ำ
วิธีการทำ รางน้ำพอเพียง
- สำรวจพื้นที่ดูทิศทางไหลของน้ำ จากนั้นนำเชือกมาวัดแล้วใช้จอบลากเป็นแนวเส้น แล้วขุดรางน้ำ
- ความกว้างของรางน้ำ 2 คืบ ลึก 1 คืบ ความยาวตามแนวถนน แล้วทำระนาดประกบรางน้ำ เพื่อกันไม่ให้น้ำเข้า ระนาดให้ต่ำด้านหนึ่ง ด้านตรงกันข้ามต้องสูงเพื่อกันไม่ให้น้ำข้ามไป ทำระนาดห่างจากรางน้ำประมาณ 1 คืบ ขุดให้เป็นร่องเล็กซ้อนลงไป เพื่อจะได้เอาพลาสติกจิกลงไป
- นำแผ่นพลาสติกปูเป็นแนวยาว ตามความยาวของรางน้ำ เหยียบตรงกลางแผ่นพลาสติกให้แนบกับร่อง ดึงพลาสติกให้คลุมถึงแนวระนาดทั้งสองด้าน แล้วนำพลาสติกจิกลงไปในดิน เอาดินมาทับที่ขอบพลาสติกไม่ให้ขยับ ทำให้ระบายน้ำได้ดี จุดไหนที่เป็นแนวถนนเอาไม้ไผ่มาวางในรางเพื่อกันไม่ให้รางชำรุดเร็วเวลารถวิ่งผ่าน
การบำเพ็ญทำทางน้ำทำให้ได้ความรู้ใหม่ มีอุปกรณ์ขุดดินเรียกว่า อีเตอร์ ตรงไหนจอบขุดไม่ลงจะต้องใช้อีเตอร์ขุดก่อน และทำให้ได้รู้ว่า การทำรางน้ำพอเพียง ที่อาจารย์หมอเขียวพาทำ ดูเผิน ๆ เหมือนง่าย พอมาลงมือทำจริงมีรายละเอียดและความปราณีตในการทำ ขนาดวางไม้ไผ่ อาจารย์จะให้ค่อย ๆ วางไม่ให้โยน การทำร่องน้ำ สามารถช่วยลดการกัดเซาะของถนนเมื่อฝนตกได้ประมาณหนึ่ง อาจารย์หมอเขียวกล่าวว่า “ถ้าถนนพังมาก ๆ เราก็เดินไม่มีปัญหา ไม่ยึดมั่นถือมั่นทำดีเต็มที่ได้เท่าไหร่ก็วาง ได้เพิ่มศักยภาพของชีวิตเรา เป็นตัวอย่างของคนที่ไม่มีทุนรอน เครื่องมือต่าง ๆ แทบจะไม่มี แต่อาศัยแรงมือกับจอบและพลังสามัคคีของพี่น้องจิตอาสา ร่วมแรงร่วมใจกันเป็น สาราณียธรรม 6 พุทธพจน์ 7 เป็นความเจริญอย่างเดียวไม่มีเสื่อม พลังพุทธะทำให้พวกเราอยู่กันได้ “
สภาวธรรม
จากการบำเพ็ญ การทำงานใด ๆ ก็ตาม ถ้าเราทำด้วยความสามัคคี ก็จะใช้เวลาไม่นาน ยอมรับฟังความคิดเห็นของพี่น้อง ส่วนใหญ่ตัวเองก็ไม่ได้ออกความเห็นอะไร เพราะไม่ถนัดเรื่องงานช่าง หมู่พาทำอะไรทำหมด ตรงไหนพร่อง ตรงไหนขาดแรงงานจะไปเสริมตรงนั้น เช่น ขุดราง ตัดพลาสติก ตักดิน ทำได้ทุกตำแหน่งไม่ได้ยึดว่าจะต้องอยู่จุดใดจุดหนึ่งพร้อมปรับพร้อมเปลี่ยนตลอดเวลา