การปลูกมะเขือเทศไร้สารพิษ : สุดใจ โสะหาบ
การปลูกผักครั้งนี้ได้เรียนรู้ทั้งรูปธรรมและนามธรรม ได้มีประสบการณ์ในการทำกสิกรรมไร้สารพิษ ว่าต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ส่วนด้านจิตใจก็ฝึกทำใจยอมรับไม่ยึดมั่นถือมั่นทำให้ใจเป็นสุขอย่างน้อยก็ยังมีเหลือให้เราได้รับประทานและยังได้แบ่งปันผู้อื่นด้วยค่ะ สาธุค่ะ
พื้นที่ปลูก กรุงเทพมหานคร บริเวณตึกที่มีพื้นที่ไม่มากนักและได้รับแสงแดดประมาณครึ่งวันในช่วงเช้า
วิธีปลูก
-
- ก่อนอื่นต้องเตรียมร่องปลูก โดยการขุดร่องตรงกลาง ใส่เศษใบไม้แห้ง ใบหญ้าแห้งและเศษอาหารลงไป นำน้ำหมักมาราดเพื่อจะได้ย่อยสลายเร็วแล้วกลบดินทับ รดน้ำให้ชุ่ม
- นำมะเขือเทศที่สุกแล้ว มาแกะเมล็ดออกแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง
- จากนั้นนำเมล็ดมาเพาะในแปลงที่เตรียมไว้ นำหญ้าแห้งคลุมบาง ๆ แล้วหมั่นรดน้ำทุกวัน
- ประมาณ 3-4 วัน ต้นกล้าก็จะเริ่มงอก เมื่อต้นโตประมาณ 2 สัปดาห์ก็แยกปลูกในแปลงให้ห่างกันพอสมควร เพื่อจะได้ไม่แย่งสารอาหารกัน
- เมื่อต้นเริ่มโตขึ้นและออกดอกก็หาไม้มาค้ำเพื่อพยุงลำต้นให้แข็งแรงจะได้รับน้ำหนักตอนที่ออกผลด้วย
- หมั่นดูแลรดน้ำพรวนดินประมาณ 4 เดือน ก็เก็บผลได้
สภาวธรรม
ช่วงปลายเดือนธันวาคม มีมะเขือเทศในตลาดเยอะมากและราคาถูก จึงซื้อเกือบทุกวันนำมาทำกับข้าว บางลูกเละก็นำมาแกะเอาแต่เมล็ดออกแล้วตากแดดให้แห้งเก็บไว้ทำพันธ์ุ เพื่อจะได้ปลูกไว้รับประทานเองไร้สารพิษแน่นอน จึงได้จัดสรรเวลาจากงานประจำที่ทำอยู่มาทำกสิกรรมไร้สารพิษแบบง่าย ๆ ดูก่อน
ตัดสินใจปลูกมะเขือเทศ ซึ่งปลูกง่ายมาก แค่นำเมล็ดพันธ์ุไปหว่านแล้วรดน้ำเช้าเย็นก็งอกแล้ว แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งฝนตกหนักน้ำขังไปเกือบครึ่งร่อง ใบก็เริ่มเหี่ยว ทำให้ใจเสีย รู้สึกสงสารต้นมะเขือเทศ และสงสารตัวเองด้วย อุตส่าห์ปลูกตอนเริ่มจะเป็นดอกยังไม่ได้ออกผลเลย ทำใจไม่ได้แต่ก็ไม่เป็นไรยังมีส่วนที่ไม่โดนน้ำขังเหลืออยู่ ซึ่งต่อไปต้องระวังไม่ให้น้ำขังอีก
ต่อมาฝนไม่ตกและมีแสงแดดในช่วงครึ่งวันช่วงเช้า ต้นมะเขือเทศก็เริ่มฟื้นคืนกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ก็เฝ้าดูแลและรดน้ำอย่างดี เพิ่มดินใส่ปุ๋ยโดยนำดินผสมกับน้ำหมักมาคลุกเข้ากันแล้วใส่ไปที่โคนต้นมะเขืออีกรอบแล้วรดน้ำเช้าเย็น คิดว่าน่าจะได้ผลดีแต่ที่ไหนได้ 1 สัปดาห์ผ่านไปโคนต้นเริ่มเน่าใบก็เฉาตายลงไปวันละต้นสองต้น
แรก ๆ ก็สงสัยว่าเพราะอะไรต้นมะเขือเทศจึงเหี่ยว หลัง ๆ ก็เลยคิดได้ว่าน่าจะเป็นเพราะใส่น้ำหมักผสมดินที่เข้มข้นเกินไป จึงทำให้โคนเน่า เพราะต้นที่อยู่ลึก ไม่ค่อยโดนดินยังแข็งแรงและไม่เหี่ยว เลยทำใจยอมรับ เพราะตัวเองก็ยังมือใหม่ ไม่เคยปลูกมาก่อน ต้องลองผิดลองถูก พร้อมปรับพร้อมเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่ก็ยังดีที่มีผลให้ได้รับประทานบ้างไม่ตายหมด และเหลือแบ่งปันให้เพื่อนบ้านด้วยค่ะ
จากประสบการณ์ในการปลูกมะเขือเทศครั้งนี้ ได้เรียนรู้ทั้งรูปธรรมและนามธรรม ได้มีประสบการณ์ในการทำกสิกรรมไร้สารพิษด้วยตนเอง ว่าต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ส่วนด้านจิตใจนั้น ก็ได้ฝึกทำใจยอมรับ ได้เห็นการไม่ยึดมั่นถือมั่น ทำให้ใจเป็นสุขได้ สาธุค่ะ
ยอดเยี่ยมค่ะ สาธุ