ดื้อ บ้า โง่ ชั่ว ทุกข์ : พรพรรณ เอ็ทสเลอร์
ถัมภะ คือดื้อ บ้า โง่ ชั่ว ทุกข์ กิเลสคือคนโง่ที่ขยัน ส่วนพุทธะคือคนฉลาดที่พ้นทุกข์ยิ่งทำยี่งทุกข์ไม่รู้จะดื้อ โง่ไปถึงไหน เพราะมันจะฝังอยู่ในหัวเราไปไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ แต่ถ้าเราบอกตัวเองว่า เราโง่ เราชั่ว เราทุกข์ เราบ้า เราก็จะไม่ทุกข์
“ใครดื้อ ใครบ้า ใครโง่ ใครชั่ว ใครทุกข์ ?”
ตัวผู้เขียนอยากจะให้ท่านพ่อบ้านทำในสิ่งที่เราต้องการซึ่งก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่เราได้เรียนรู้มาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และท่านผู้มีศีลทั้งหลาย ซึ่งช่วงนั้นผู้เขียนยังไม่ได้รู้จักแพทย์วิถีธรรม จำได้เลยว่ายึดดีจึงได้บอกกับท่านพ่อบ้านว่า ” เรามีแม่เพียงคนเดียวในโลกนี้ แต่เมียน่ะสามารถหาใหม่ได้ ฉะนั้นแล้วหากมีเหตุการณ์ที่จะให้เธอตัดสินใจเลือกระหว่าง แม่กับเมีย ให้เธอเลือกแม่ของเธอนะ” ท่านก็ถามว่าทำไมฉันต้องเลือกแม่ ก็ในเมื่อฉันกับเธออยู่ด้วยกันฉันควรจะเลือกเธอไม่ใช่เหรอ ผู้เขียนก็ตอบท่านไปว่าเพราะแม่กับคุณคือคนเดียวกัน สำหรับฉันคือคนอื่น ณ เวลานั้นไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่านคิดอย่างไร แต่ท่านนิ่งเงียบไป และไม่พูดอะไร เมื่อมานึกย้อนหลังถึงเหตุการณ์ดังกล่าวก็คงต้องกราบขอบพระคุณท่านพ่อบ้านนะคะที่ท่านไม่ถามผู้เขียนยาวไปกว่านี้ ถ้าท่านถามยาวไปกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายท่านว่าอย่างไร แต่ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองก็คงจะคิดว่า พ่อบ้านท่านคงจะไม่พูดเพราะคิดว่านั่นมันคือความรู้สึกของผู้เขียนซึ่งท่านจะทำหรือไม่ทำมันเป็นเรื่องของท่านต่างหาก ท่านคงจะทำเป็นเงียบเพราะเอาใจผู้เขียนซะมากกว่า คำสอนของท่านอาจารย์ในคลิปนี้ทำให้ผู้เขียน ระลึกถึงสิ่งที่เคยพลาดทำมา และได้สำนึกกับสิ่งที่ทำผิดพลาดมา แล้วพร้อมที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องสมควร ในอนาคตข้างหน้าต่อไปค่ะ
ท่านอาจารย์หมอเขียวกล่าวเกี่ยวกับเรื่องถัมภะคือความดื้อ ทำให้เห็นเบื้องหลังที่ผ่านมาของตัวเองก่อนที่จะได้มาเจอท่านอาจารย์หมอเขียวและแพทย์วิถีธรรมว่าคนที่ดื้อ บ้า โง่ ชั่ว ทุกข์ มันคือตัวเองทั้งหมดเลย ตัวพรหม 3 หน้า (การเอาแต่ใจตนเอง) คืออยากให้คนใกล้ตัวทั้งพ่อ แม่ พี่ น้อง และใครก็ตามที่เรารู้จัก ให้พวกเขาได้สิ่งที่เราแนะนำ ถ้าเขาไม่ทำตาม หรือ มีข้ออ้างว่านั่นนี่ ตัวผู้เขียนเองก็จะน้อยใจ และบางทีก็โกรธไม่คุยด้วยเลยก็มี กิเลสนี่เก่งจริง ๆ ทำคนให้โง่อยู่แล้วยิ่งโง่ซ้ำลงไปกว่าเดิมได้ พอนึกถึงอดีตของตัวเองที่เคยมีพฤติกรรมเช่นนั้นมา ก็รู้สึกอายย้อนหลังเลยค่ะ ยิ่งในขณะที่ตัวเองกำลังเขียนการบ้านนี้อยู่ ไม่รู้ว่าสภาวะออกมาจากทางไหนบ้าง ไหลออกมาจนแทบจะพิมพ์ไม่ทัน ก็คงจะแสดงให้เห็นความจริงเลยล่ะค่ะว่า ผู้เขียนได้ประสบพบกับเหตุการณ์ที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวในคลิปนี้จริง ๆ เลย ฮ่า ฮ่า โชคดีเหลือเกินที่ได้มาพบกับท่านอาจารย์หมอเขียว และพี่น้องแพทย์วิถีธรรมไม่เช่นนั้นตัวเองคงจะต้อง ดื้อ บ้า โง่ ชั่ว ทุกข์ แบบนั้นอยู่นาน ตราบจนถึงวันตายก็อาจจะเป็นได้
ทุกวันนี้นับตั้งแต่ได้เข้ามาร่วมบำเพ็ญกับแพทย์วิถีธรรม พฤติกรรมที่อยากจะไปแก้พฤติกรรมของผู้อื่นไม่มีแล้วค่ะ ใครจะทำอะไร อย่างไร ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมควรก็จะบอกเขาซึ่งเขาจะแก้ไขหรือไม่แก้ไขก็ได้ทำให้ใจเบาสบายขึ้นตั้งเยอะค่ะ ที่สำคัญไม่ผิดศีลข้อ 1 และข้อ 3 ด้วยคือ ไม่เบียดเบียนตัวเอง และไม่เป็นขี้ขโมย ไม่ดื้อ คือไม่ขโมย ไม่ดื้ออยากได้พฤติกรรมดี ๆ จากผู้อื่นน่ะค่ะ เหมือนท่านอาจารย์หมอเขียวกล่าวว่า “ความดื้อของเรานั่นแหล่ะที่ทำไม่ดีกับเรา จำไว้นะที่เขาทำไม่ดีกับเราเพราะเราดื้อต่อสัจจะ ต่อกุศล อกุศล มันมีกุศลอยู่เท่านั้น ทั้งเขาทั้งเรา เราทำเองนั่นแหล่ะเป็นวิบากใหม่ ๆ เลย วิบากที่เราดื้อใหม่ ๆ นั่นแหล่ะมันทำให้เขาทำไม่ดีกับเรา ถ้าเราเต็มใจรับมันจะเบาทันที ใจจะเบา เหตุการณ์จะเบาทันที เพราะเราเลิกโง่ เลิกบ้า เลิกชั่ว เลิกทุกข์แล้ว ทุกข์จะเบาทันที ใจมันหายทุกข์เลย สุขเกิดทันทีเลย เรื่องร้ายทั้งหลายจะเบาทันที