อาหารปั่นเพื่อสุขภาพ : นางศิริเพ็ญ ทองดี
สำหรับเรื่องอาหารปั่นนี้ เคยคิดมาแล้วหลายปี เนื่องจากตัวเองเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องกระดูก มีภาวะแคลเซียมต่ำมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ต้องสรรหา อาหารที่มีแคลเซี่ยมสูงมารับประทานอยู่เสมอ เมื่อได้มาเจอแพทย์วิถีธรรม ทำให้รับประทานผักมากขึ้น และที่สำคัญ ตัวเองได้ฝึกรับประทานอาหารมื้อเดียว
อาหารฤทธิ์ร้อน เย็น ผสมพอ ๆ กัน
เวลาที่ใช้ในการทำอาหาร ประมาณ 15 นาที (ทั้ง 3 เมนู)
เมนูที่ 1 ผักสดปั่น
- ผักบุ้ง ครึ่งกำมือ มีฤทธิ์เย็น
- ผักกวางตุ้ง มีฤทธิ์เย็น
- ผักกาดขาว มีฤทธิ์เย็น
- ผักชีจีน มีฤทธิ์ร้อน
- ผักคื่นช่าย มีฤทธิ์ร้อน
- สะระแหน่ มีฤทธิ์ร้อนดับร้อน
วิธีทำ นำทุกอย่างมาปั่นรวมกัน เทใส่แก้ว พร้อมรับประทาน
เมนูที่ 2 ถั่วเขียวซีกปั่น
ถั่วเขียวซีก (มีฤทธิ์เย็น) แช่น้ำประมาณ 1 ถ้วย ประมาณ 4-6 ชั่วโมง จึงนำมาปั่น แล้วไปต้มไฟอ่อน ๆ ใส่น้ำเล็กน้อย
เมนูที่ 3 ผลไม้ปั่น
- กล้วยหอม 1 ลูก มีฤทธิ์ร้อน
- มะม่วงสุก มีฤทธิ์ร้อน
วิธีทำ นำทุกอย่างมาปั่นรวมกัน เทใส่ภาชนะ พร้อมรับประทาน
สำหรับ “อาหารปั่น” นี้ เคยคิดมาแล้วหลายปี เนื่องจากตัวเองเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องกระดูก มีภาวะแคลเซียมต่ำมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ต้องสรรหา อาหารที่มีแคลเซี่ยมสูงมารับประทานอยู่เสมอ เมื่อได้มาเจอแพทย์วิถีธรรม ซึ่งจะรับประทานผักมากขึ้น และที่สำคัญ ตัวเองได้ฝึกรับประทานอาหารมื้อเดียว
ตั้งแต่เริ่มเข้ามาเรียนรู้แพทย์ทางเลือกวิถีธรรม การรับประทานอาหารมื้อเดียว ต้องเคี้ยวให้ละเอียดและใช้เวลานาน ไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงในการรับประทานอาหาร และอาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นผักผลไม้ ทำให้ฟันต้องทำงานมากขึ้น ระยะเวลาในการเคี้ยวนานยิ่งขึ้น เคยคิดว่า ถ้าปั่นรับประทานคงจะดีไม่ต้องเสียเวลาเคี้ยว และประหยัดเวลาทานข้าว จะมีเวลาเหลือไปทำงานอย่างอื่น
แต่เนื่องจากตนเองเป็นคนที่มีเวลาจำกัด ตอนไปค่ายสุขภาพฯ เห็นพี่ ๆ ปั่นผัก ปั่นผลไม้อยู่เสมอ ก็อาศัยว่าได้ทานในค่ายไปบ้าง แต่ไม่เคยเอามาทำที่บ้าน เพราะคิดว่าใช้เวลานานในการปั่น แต่ความจริงแล้ว คงเป็นเพราะกิเลส หรือวิบากปิดกั้นไม่ให้เราได้ทำ ช่วงนั้นบุญคงไม่ถึงรอบ ฟ้ายังไม่เปิดให้
ต่อมา เมื่อครูบาอาจารย์ ได้ชี้แนะ และส่งเสริมให้ทานผัก ผลไม้ หรืออาหารปั่น รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เป็นไปตามที่เราเคยคิดไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า เมื่อฟ้าเปิดแล้ว บุญก็ถึงรอบแล้ว เหตุปัจจัยพร้อม เวลาพร้อมแล้ว มีทั้งผักสด ที่ได้มาจากสวนพี่ตุ้ม มะม่วงสุก กล้วยหอมทองก็มี ก็เลยได้ปั่นรับประทาน
ภาคปฏิบัติ ไม่เหมือนภาคทฤษฎี ไม่เหมือนภาคคิดเดาเอาเอง ใช้เวลาไม่นานเลย ไม่ถึง 5 นาที ในการปั่นแต่ละเมนู ปั่นเสร็จ ก็รับประทานได้เลย เราจะได้ เอนไซด์สด ๆ จากพืช จากธรรมชาติ และยังได้สารพฤกษเคมี ในพืช ในผักผลไม้ (ถ้าเก็บมาสด ๆ ใหม่ ๆ ไม่นานมากไม่เกิน 3-5 ชั่วโมง บวกลบ) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การรักษาโรค และการฟื้นฟูเซลล์ของร่างกาย ได้เป็นอย่างดี ดูดซึมง่าย ขับถ่ายง่าย ย่อยง่าย นำไปใช้ประโยชน์ ต่อร่างกายได้ง่าย
ข้อคิด
สำหรับท่านที่ ชอบซื้อที่เขาปั่นขาย มีข้อสังเกตเล็กน้อย ว่า เราจะเสี่ยงต่อผักผลไม้ที่ปนเปื้อนสารเคมี หรือ เปล่า? ขบวนการล้างทำความสะอาด เขาทำได้ดี ได้สะอาด เพียงพอหรือไม่
ถ้าเราไม่อยากเสี่ยง ต่อการสะสมสารพิษสารเคมีไว้ที่ตับ ก็เชิญชวนมาฝึกทำผักผลไม้ปั่นด้วยตัวเอง อย่าลืมว่าหน้าที่หลักที่สำคัญของตับ คือ การกำจัดสารพิษสารเคมีที่เข้ามาในร่างกาย หน้าที่รองคือ ดูแล ผิว ผม เล็บ ถ้าตับเราเก็บกักสารพิษ สารเคมีไว้ที่ตับมาก ๆ การทำงานของตับก็น้อยลง จะส่งผลต่อ ผิว ผม เล็บได้ ถ้าไม่อยากผมหงอกง่าย ผิวพรรณดูดีไปนาน ๆ ก็หันมารับประทานผักผลไม้ปลอดสารพิษกัน
ความรู้สึกทางร่างกายและจิตใจ
หลังจากที่รับประทานอาหารปั่นในครั้งนี้ คือ อิ่มนาน เบากาย สบายใจ ไม่หิวข้าวถึงมื้อเย็น จะทานมื้อเที่ยงเป็นหลักมื้อเดียว แต่ไม่ยึดมั่นถือมั่น ตามสภาพเหตุปัจจัย และโอกาสอำนวยอย่างสบายใจ
สภาวธรรม
สภาวะชิงชังอาหารปั่นนั้นมีน้อย เพราะตอนนี้มองอะไรค่อนข้างบวก เกิน 90 % ถ้ามีก็คงเพราะนึกถึงคนอื่น ว่าอาหารมันละเอียด คนอื่นคงไม่ชอบ เพราะลักษณะของมันขึ้นอยู่กับคนที่คิดเสริมเติมแต่ง ไปว่าเป็นยังไง ที่คิดไปเพราะเคยมีประสบการณ์ปั่นผลไม้ไปเป็นอาหารเบรกในการประชุม ถึงตอนนี้เลยคิดว่า อ้าว ใครบุญถึงรอบ ก็คงได้ทานอาหารปั่น ใครชิงชังรังเกียจ ก็อยู่ที่เขา เขาก็ไม่ได้ทาน เหมือนเมื่อก่อนที่ตัวเอง ไม่ได้ลงมือทำสักที