การทำกสิกรรมแบบผสมผสาน : พรทิพย์ ไทยเอียด
การทำกสิกรรมแบบผสมผสาน คือการทำการเกษตรที่มีการปลูกพืชหลายชนิดอยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยพืชแต่ละชนิดสามารถเกื้อกูลประโยชน์ต่อกันได้โดยอาจจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมมีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรร่วมกัน เช่น ดิน นํ้า แสงแดดอ มีการหมุนเวียนแร่ธาตุอาหารของพืชแต่ละชนิดที่อาศัยซึ่งกันและกัน เกื้อกูลกัน อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
จ. สุราษฎร์ธานี
จากการที่ได้ติดตามรายการของช่องบุญนิยมทีวีและอาจารย์หมอเขียว ทำให้ได้องค์ความรู้ใหม่ในการดำเนินชีวิต ว่าสิ่งที่ชีวิตต้องการจริงๆมีแค่ปัจจัย 4 ที่หาได้ง่ายและไม่มีโทษ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ที่เราควรเรียนรู้ การปลูกอยู่ปลูกกินเองได้ ไม่ต้องไปเน้นปลูกพืชเชิงเดียวเพื่อขายเอาเงิน แล้วนำเงินมาซื้ออาหาร ซึ่งอาหารที่เราซื้อมากินส่วนใหญ่ก็ประกอบไปด้วยสารพิษ สารเคมี นานาชนิด ที่จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของเราและคนในครอบครัวในวันข้างหน้าทั้งสิ้น
เมื่อเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งนี้แล้วเลยตัดสินใจโค่นยางพาราเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เพื่อทำเกษตรผสมผสาน ปลูกอยู่ปลูกกิน โดยในการปลูกจะมีทั้งพืชผักที่เกิดบนดินและใต้ดิน ไม้ผล ไม้เศรษฐกิจ ไม้โตเร็ว โตช้า ไม้ไผ่และไม้ช้งานอื่นๆ เน้นปลูกผักอายุยืนปลูกครั้งเดียวกินไดตลอด ได้แก่มะม่วงหิมพานต์ ชะอม ผักหวานบ้าน สับปะรด ผักเหมียง ส้มป่อย หม่อน ผักขาไก่ มะกอก ยอ กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหอม กล้วยเล็บมือนาง พืชที่เป็นเครื่องเทศเครื่องปรุงรส ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำเครื่องแกงการปรุงรสชาติอาหารในครัว ได้แก่ ขมิ้น ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย พริกไทยดำ มะนาว ไม้ผลที่ปลูกมีทั้ง เงาะ มังคุด ทุเรียน กระท้อน ขนุน จำปา มะม่วง มะพร้าว ละมุด ชมพู่ ปลูกสลับกับไม้เศรษฐกิจรวมๆกันไปอย่างละ 3-5 ต้น
ซึ่งวิธีการปลูกรวมๆกันดังกล่าวมานี้ ช่วยให้พืชผักที่ปลูก เติบโตเร็ว และดินมีความอุดมสมบูรณ์รดน้ำหรือใส่ปุ๋ย บนพื้นที่บริเวณเดียวกัน แต่สามารถเกิดประโยชน์ต่อพืชที่ปลูกได้ทั้งหมด ในเวลาเดียวกัน ง่ายต่อการดูแล บำรุงรักษา เป็นการประหยัดและได้ประโยชน์สูงสุด
สภาวธรรม
ลดกิเลสจากการเป็นคนโลกโลกีย์มาสู่การใช้ชีวิตให้มันกินง่ายอยู่ง่ายแบบคนวรรณะ 9 จิตใจมีความผาสุขมากขึ้น เศรษฐกิจครอบครัวดีขึ้น ความสัมพันธ์และความสงบสุขภายในครอบครัวดีขึ้น