คิดบวกกับความไม่กลัว : พรพรรณ เอ็ทสเลอร์
ขออนุโมทนาบุญกับแม่ย่าในครั้งนี้ ท่านได้แสดงให้ผู้เขียนเห็นว่าความไม่กลัวและการคิดบวก ทำให้สิ่งที่คิดว่าน่ากลัว กลับกลายเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งจะนำพาความสุขมาให้กับชีวิตได้ค่ะ สาธุ
เห็นอาการดีใจ กับอาการเฉย ๆ เกี่ยวกับวัคซีนโควิด
ประชาชนของเมืองที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่จะดีใจเมื่อทราบข่าวว่ามีวัคซีนโควิด 19 อย่างพอเพียง ก่อนหน้านั้นต่างก็พากันกังวลว่าวัคซีนจะไม่เพียงพอ และแหล่งที่ทางรัฐบาลจัดซื้อจะจัดส่งให้ทันหรือไม่
อย่างคนใกล้ตัวของตัวเองก็เช่นเดียวกันท่านคือ คุณแม่ของสามี (แม่ย่า) ช่วงเริ่มต้นสถานการณ์โควิด เหมือนท่านจะมีความกังวลค่อนข้างมาก ท่านได้คุยกับผู้เขียนว่า
แม่ย่า : แม่ดูข่าวในทีวี เขาบอกว่าวัคซีนที่รัฐบาลสั่งซื้อมา อาจจะไม่พอสำหรับประชาชน เพราะมีบางบริษัทจะยกเลิก ไม่ส่งครบตามที่กำหนด
ผู้เขียน : น่าจะพออยู่หรอกจ้ะ เพราะพวกเรายังเหลือเวลาอีกหลายสัปดาห์ ก่อนที่รัฐบาลจะเปิดบริการจ่ายวัคซีน
แม่ย่า : แล้วลูกคิดว่าแม่ควรจะไปรับวัคซีนโควิดไหม ?
ผู้เขียน : แล้วแม่คิดอย่างไร ?
แม่ย่า : แม่ก็อยากรับวัคซีนจ้ะ แล้วลูกคิดอย่างไร ?
ผู้เขียน : สำหรับลูก ลูกคิดว่าจะยังไม่รับวัคซีนค่ะ เพราะระยะเวลาในการที่ทดสอบวัคซีนอยู่ในช่วงสั้น ๆ ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน ?
แม่ย่า : แต่อย่างไรแม่ก็จะไปปรึกษาคุณหมอประจำตัวของแม่อยู่นะ ว่าแม่ควรจะรับวัคซีนหรือไม่ เพราะท่านจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของแม่
ผู้เขียน : ค่ะ แม่ แม่ลองไปปรึกษาท่านดูค่ะ ท่านจะให้คำปรึกษาแม่ได้ดี
จากนั้นแม่ย่าก็เงียบเหมือนกับท่านจะคิดและไตร่ตรองอะไรสักอย่าง ผ่านไป 3 วัน แม่ย่าก็โทรมา
แม่ย่า : แม่ได้คุยกับคุณหมอประจำตัวแล้ว ท่านบอกว่าโรคที่แม่เป็นอยู่ สมควรที่จะรับวัคซีนเป็นอย่างยิ่ง และท่านก็บอกว่าเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล
ผู้เขียน : งั้นก็ดีแล้วละจ้ะ เดี๋ยวลูกจะเป็นธุระทำเรื่องนัดฉีดวัคซีนให้แม่นะ
แม่ย่า : ได้จ้ะ ยินดีเลย เพราะรัฐบาลแนะนำว่าผู้สูงอายุที่ไม่มีความรู้เรื่องไอที ควรจะให้ลูกหลานช่วยทำเรื่องนัดทางออนไลน์ให้ ขอบใจลูกมากจ้ะ
ก่อนจะถึงวันที่แม่ย่าจะไปรับวัคซีน ผู้เขียนก็ได้โทรคุยกับแม่หลายเรื่อง เพราะเกรงว่าแม่จะมีความกังวลและหลังจากรับวัคซีนแล้ว จะทำให้ไม่สบาย คุยไปคุยมาสรุปได้ว่า แม่ดีใจ ความกลัวและกังวลของแม่นั้นไม่มีเลย และยังบอกกับผู้เขียนด้วยว่า มีผู้คนที่ได้รับวัคซีนแล้ว ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า สบายดีและไม่เหนื่อย แค่เจ็บตรงบริเวณต้นแขนอยู่นิดเดียวเอง น้ำเสียงของแม่พูดอย่างมีความสุข
พอถึงวันที่จะไปรับวัคซีน ผู้เขียนไปรับแม่ก่อนเวลานัด 1 ชั่วโมง แม่ก็ยังดูสดใสเหมือนเดิม พอไปถึงสถานที่พวกเราเห็นผู้คนมาเข้าคิวรอกันมาก ตัวผู้เขียนเองก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า “โอ้…คงต้องรอนานแน่เลย แล้วแม่ย่าเราจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ?” แต่ท่านผู้อ่านเชื่อไหมค่ะ กระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ผู้ทำงานอำนวยความสะดวก ณ บริเวณนั้นทำงานเป็นระบบดีมาก เวลาไม่นานแม่ย่าก็ได้เข้ารับวัคซีนและกลับบ้าน
ผู้เขียน : แม่เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ ?
แม่ย่า : สบายดีจ้ะไม่มีอาการอะไรเลย อีก 3 สัปดาห์ ก็ไปรับวัคซีนเข็มที่ 2 จ้ะ
ผู้เขียน : สาธุ
ผ่านไป 2 วัน ผู้เขียนก็ได้โทรศัพท์ถามแม่ย่าว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง ? มีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นบ้างไหม ? ท่านก็บอกว่าสบายดีจ้ะ แม่ไม่เป็นอะไร เมื่อวานแม่ก็ยังเดินไปซื้อของที่ร้านค้าข้างบ้านอยู่เลยจ้ะ
ผู้เขียนก็ขออนุโมทนาบุญกับแม่ย่าในครั้งนี้
ท่านได้แสดงให้ผู้เขียนเห็นว่าความไม่กลัว และการคิดบวกทำให้สิ่งที่คิดว่าน่ากลัวกลับกลายเป็นสิ่งที่ดี
และจะนำพาความสุขมาให้กับชีวิตค่ะ สาธุ