แบ่งปันประสบการณ์จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม : นฤมล ยังแช่ม (เข้มแสงศีล)
เมื่อปี พ.ศ.2560 อ.หมอเขียว ได้มาบรรยายที่พุทธสถานศาลีอโศก จ.นครสวรรค์ และก็มีอา 2 ท่าน ที่ 1 ท่านป่วยเป็นเบาหวานจึงไปค่ายสุขภาพ ได้ชวนให้ไปค่ายด้วยกัน แต่ตอนนั้นข้าพเจ้ายังไม่สนใจเนื่องจากปฏิบัติธรรมในสายเดินจงกรม นั่งสมาธิ อยู่ ไม่รู้ว่า อ.หมอเขียว คือใคร แต่ก็สงสัยว่าทำไมอา 2 ท่าน ถึงไปกัน จึงไปเปิด YouTube ดู ธรรมบรรยายเรื่องแรกที่ได้ฟังคือ อุปกิเลส 16 พอได้ฟังแล้วรู้สึกว่า โอ้ เป็นธรรมะที่ไม่เคย ได้ฟัง ได้ยิน มาก่อน ทำไมอาจารย์ถึงอธิบายได้ละเอียดขนาดนี้ แล้วก็เปิด YouTube ในหัวข้ออื่น ๆ ฟังต่อ แล้วก็ลองทำอาหารมังสวิรัติกินเอง โดยเริ่มจากการลด ละ เลิก เนื้อสัตว์มาเป็นลำดับจนเหลือปลา ไข่ ขนม
ได้มีโอกาสฟังธรรมบรรยายจากท่าน อ.หมอเขียว ดร.ใจเพชร กล้าจน ครั้งแรกวันที่ 13 พ.ค. 2560 ณ สวนป่านาบุญ 3 จังหวัดปทุมธานี เป็นเวลา 3 วัน และมีโอกาสได้รู้จักจิตอาสาแพทย์วิถีธรรมอีกหลาย ๆ ท่าน เช่น ป้าย่านาง (บัวสายธรรม ) อาติ๋ว (สู่แสงศีล) น้องนุช (อุ่นไอพุทธ) อาจิ๋ม (แก้วผาพลอย) พร้อมทั้งคำแนะนำในการปฏิบัติตัวด้วยยา 9 เม็ด ได้ชิมน้ำปัสสาวะของตัวเองเป็นครั้งแรก ที่ค่ายนี้ หลังจากนั้นก็มีโอกาสไปค่ายแฟนพันธ์แท้ที่ดอนตาล ในเดือนตุลาคม 2560 หลังจากนั้นก็ตามค่ายเพื่อฟังธรรมบรรยายเท่าที่เวลาจะจัดสรรได้เนื่องจากข้าพเจ้ายังต้องทำงานในทางโลกอยู่
ชีวิตก่อนพบแพทย์วิถีธรรม
- ด้านสุขภาพ มีความเครียดจากการทำงาน ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารมาเป็นระยะเวลานาน และมีอาการท้องผูก เป็นสิว เป็นหวัดได้ง่ายมาก แค่เพียงโดนละอองฝน ก็เป็นหวัดแล้ว ทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยนก็จะต้องไปหาหมอที่คลินิก ฉีดยา อาการไข้หวัดจึงจะหายได้ ทำให้ต้องใช้จ่ายเงินไปในการรักษาโรค ไม่สามารถพึ่งตนเองได้ ปวดประจำเดือน ทุกครั้งที่มีรอบเดือน
- ด้านอาหาร กินเนื้อสัตว์เล็ก ไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ เพราะนับถือเจ้าแม่กวนอิม และกินอาหารเจในช่วงเทศกาลเจทุกปี พื้นฐานเป็นคนชอบกินผักและผลไม้ แต่ก็ชอบกินขนมด้วย โดยเฉพาะขนมที่ทำมาจากกล้วย ข้าวเหนียวหรือขนมที่มีความนุ่ม มีอยู่ครั้งหนึ่งที่กินขนมผิงจนฟันแตก ต้องไปทำการครอบฟัน เพื่อให้ฟันสามารถเคี้ยวอาหารต่อไปได้ เสียค่ารักษาฟันซี่ละ หนึ่งหมื่นกว่าบาท ถึง 2 ครั้งด้วยกัน จะซื้อผักและผลไม้กิน ยังไม่ได้ปลูกผักกินเอง
- ด้านการแต่งตัว เป็นคนไม่ชอบแต่งตัวเท่าไหร่ แต่เนื่องจากที่ทำงานเขาแต่งตัวกัน ตนเองก็เลยแต่งตัวตามเขาไปด้วย โดยจะเสียเงินไปกับเสื้อ กางเกงยีนส์ และรองเท้า แบรนด์เนม เพราะตอนนั้นคิดว่าถึงเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงแต่ก็คุ้มเพราะใส่ได้หลายปี จึงมีเสื้อผ้าอยู่ในตู้เป็นจำนวนมากทั้งเสื้อผ้าใส่ทำงานและใส่ไปเที่ยว ส่วนการแต่งหน้าก็เริ่มจากการทำงานด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้แต่งเยอะมาก บางครั้งก็รู้สึกเบื่อที่จะต้องแต่ง แต่บางครั้งก็คิดว่าสวยดี จนมีสิวขึ้น จึงหยุดแต่งหน้าและจะแต่งเฉพาะไปงานที่สำคัญ ๆ เท่านั้น และเสียเงินไปกับการซื้อครีมบำรุงผิว เพราะคิดว่าผิวที่ดีจะสวย ทรงผม เมื่อก่อนจะเป็นที่ชอบไว้ผมยาวมาก ๆ เพราะคิดว่าสวย เคยไปยืดผมให้ผมตรงตามคำแนะนำของพี่ ๆ ที่สำนักงาน ผลปรากฏว่าผมร่วง จนต้องไปหาหมอรักษาเฉพาะทาง เสียเงินไปกับการรักษาเส้นผมเป็นจำนวนมาก เพราะต้องใช้ยาสระผมที่เป็นสมุนไพร จากเหตุการณ์นั้นจึงทำให้รู้ว่าความอยากสวยเป็นเหตุให้เสียสตางค์และสารเคมีมีอันตรายกับเรามาก
- ด้านการท่องเที่ยว เป็นคนชอบไปไหว้พระตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัด และก็มีไปทะเล แต่ว่ายน้ำไม่เป็น ไปดูพระอาทิตย์ตกดิน ถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้ ส่วนมากจะเดินทางไปกับครอบครัวโดยเหมารถตู้ไปในช่วงวันหยุดจากการทำงาน
- ด้านมิตร จะมีเพื่อนที่เป็นคนปฏิบัติธรรมด้วยกัน มีพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ทำงานเดียวกัน และมีเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนคบกันเป็นเพื่อนจนมาถึงปัจจุบัน ด้วยนิสัยของตนเองจะเป็นคนใจอ่อน เวลามีคนมาขอความช่วยเหลือก็จะช่วยเขาจนต้องเองต้องเป็นทุกข์ เพราะเขาผิดนัดไม่ไปชำระหนี้
- ด้านธรรมะ เริ่มสนใจธรรมะตั้งแต่ยังเด็ก แม่จะพาไปทำบุญที่วัดเป็นประจำ ทำให้ถูกปลูกฝังมาอยู่ในด้านกุศล และมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ หลายจังหวัด ในช่วงวันหยุด เป็นประจำ เพราะรู้สึกว่ามีความสุขที่ได้ไป ทำให้มีโอกาสฟังธรรมะของพระสายต่าง ๆ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
- ด้านการทำงาน งานที่ทำเป็นงานด้านบัญชี ชีวิตอยู่กับตัวเลขมาตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงทำงาน ณ ปัจจุบัน จะมีงานในหน้าที่เยอะมาก และด้วยความที่เป็นเจ้าหน้าที่มาบรรจุใหม่ ก็จะเกรงใจพี่ ๆ ที่เขาทำงานมาก่อนเรา และไม่กล้าที่จะแบ่งงานของตนเองไปให้คนอื่นทำ จึงทำให้ต้องไปทำงานวันเสาร์ อาทิตย์ เป็นประจำชีวิตแทบจะหาวันหยุดไม่ได้เลย มีแต่งาน บางครั้งทำงานผิดพลาดจากความไม่เข้าใจของตนเอง เป็นเหตุให้ต้องแก้ไขงานหลายครั้ง
ชีวิตหลังพบแพทย์วิถีธรรม
1.ด้านสุขภาพ เมื่อได้นำความรู้เทคนิค 9 ข้อ หรือยา 9 เม็ดจากแพทย์วิถีธรรมมาใช้ดูแลตนอง ปรับสมดุลร้อนเย็น ทำให้ร่างการมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น
-
- โรคเครียด หลังจากที่ได้ฟังธรรมบรรยายของอาจารย์หมอเขียว ทำให้จิตใจมีความสุขมากขึ้น เนื่องจากได้เข้าใจเรื่องวิบากดีร้าย เรื่องกรรมได้ชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ความเครียดจากการทำงานลดลง เป็นลำดับ ๆ (ยาเม็ดที่ 8 )
- โรคกระเพาะ จากการลด ละ เลิก การทานเนื้อสัตว์ มากินอาหารพืชผักผลไม้ เช่นกล้วยน้ำว้า ซึ่งสมดุลร้อนเย็นกับร่างกาย ทำให้โรคกระเพาะอาหารหายไปในที่สุด (ยาเม็ดที่ 1, 7, 8)
- โรคท้องผูก เป็นโรคที่สืบเนื่องจากโรคเครียด เมื่อความเครียดหายไป โรคท้องผูกที่เคยเป็นก็หายไปด้วยเพราะได้รับประทานผักผลไม้ที่มีฤทธิ์ ได้ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์ สวนล้างลำไส้ใหญ่ และออกกำลังกายโยคะ กดจุดลมปราณ ทำให้โรคท้องผูกที่เป็นมานานหายไป (ยาเม็ดที่ 1, 3, 6, 7,8)
- โรคไข้หวัด การลด ละ เลิก การทานเนื้อสัตว์ การปรับสมดุลร้อนเย็นด้วยพืชผัก สมุนไพรที่ถูกกันกับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง โรคหวัดที่ต้องเป็นทุกครั้งเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง ก็ไม่เป็นอีกเลย (ยาเม็ดที่ 1, 7, 8)
- โรคสิว ที่เกิดจากความเครียด กินอาหารผัด ทอด ได้ถูกเปลี่ยนพฤติกรรมมา เข้าใจธรรมะมากขึ้นเมื่อโรคเครียดหาย โรคสิวก็หายไปด้วย พร้อมกับใช้น้ำปัสสาวะในการล้างหน้า แปรงฟัน เช็ดหน้า ล้างตา สวนล้างจมูก และดื่มน้ำปัสสาวะ ไม่ต้องเสียเงินซื้อยารักษาสิว ประหยัดค่าใช้จ่าย และยังได้ยารักษาโรคที่ปลอดภัยที่สุดจากในตัวเราเอง ทำให้เห็นได้ว่าการลดกิเลส รักษาโรคได้ทุกโรค (ยาเม็ดที่ 1, 7, 8)
โรคที่เคยเป็นค่อย ๆหายไปเป็นลำดับ ๆ จนไม่ต้องกินยา ไปหาหมอมาเป็นระยะเวลา 4 ปี (เริ่มตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน)
2.ด้านอาหาร ลด ละ เลิก การกินเนื้อสัตว์มาเป็นลำดับ ๆ รู้จักการทำกสิกรรมไร้สารพิษ ทำให้มีผักกินเอง ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารลงไปเป็นจำนวนมาก และได้มีโอกาสนำเงินที่เหลือจ่ายไปทำกุศลในด้านอื่น ๆ เช่น ทำน้ำปั่นผักไม้ให้พี่ ๆ ที่สำนักงานได้รับประทาน เป็นแรงเหนี่ยวนำที่ดีที่ทุกคนจะได้เห็นว่าการกินผัก ไม่กินเนื้อสัตว์ก็แข็งแรงได้
3. ด้านการแต่งตัว เมื่อได้ฟังอาจารย์บรรยายว่าการแต่งหน้าเป็นการหลอกกัน เอาเวลาไปแต่งความดีนั้นดีกว่า ก็ลด ละ เลิก การ แต่งหน้า งดซื้อเสื้อผ้า ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ซื้อ แล้วก็นำเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้ไปบริจาคกับพี่น้องที่เป็นจิตอาสาด้วยกัน ผมก็ตัดสั้น ทุกครั้งที่ตัดผมมีความรู้สึกใหม่เกิดขึ้น คือความเบา สบาย และได้ล้างกิเลสในตัวที่เคยติดยึดว่าผมยาวสวย จริง ๆ แล้ว ผมยิ่งสั้นยิ่งดูแลง่าย ไม่เป็นภาระ ยาสระผมก็เป็นน้ำปัสสาวะ น้ำมะกรูด แค่นี้ก็พอแล้ว จากการงดการแต่งหน้า แต่งตัว แต่งผม ทำให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่เราเคยจ่ายไปเพื่อสนองกิเลสนี้มันเยอะมาก ถ้าไม่พบสัตบุรุษ ไม่ได้ฟังสัจธรรมจะหลงไปอีกนาน
4. ด้านการท่องเที่ยว อาจารย์หมอเขียวบรรยายไว้ว่า การท่องเที่ยวคือการท่องทุกข์ ไปดูอะไร มีแต่ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อได้ฟังแล้ว ก็มาพิจารณาตามที่อาจารย์พูด ซึ่งตนเองก็เห็นว่าเป็นความจริงทุกอย่าง จึงหยุดเที่ยวแม้จะไปไหว้พระตามวัดต่าง ๆ ก็เลิกไป เอาเวลาที่จะไปเที่ยวมาทำงานที่เป็นประโยชน์ดีกว่า
5. ด้านมิตร ตั่งแต่สถานการณ์โควิด ทำให้มีโอกาสได้รู้จักพี่น้องชาวแพทย์วิถีธรรมมากขึ้น ได้เห็นน้ำใจของพี่น้องในการช่วยเหลือและแบ่งปันองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ชาติ เป็นแรงใจ แรงกาย แรงปัญญา แรงบารมีร่วมในการสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป
6. ด้านธรรมะ ได้ฟังในสิ่งที่ไม่เคยฟังมาก่อน ธรรมะบรรยายของอาจารย์เป็นธรรมะที่ละเอียด มีความลึกซึ้ง ทำให้จิตวิญญาณได้พัฒนามากขึ้น ได้รู้จักการตั้งศีล ลด ละ เลิก กิเลส ในสิ่งที่ชอบ ชัง มาเป็นลำดับ ๆ จนความทุกข์ลดลง ความผาสุกในชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ตามฐานจิตของตนเองที่ทำได้ และจะพากเพียรทำในส่วนที่เหลือ เพื่อความพ้นทุกข์ พบกับความผาสุกที่ยั่งยืน
7. ด้านการทำงาน งานที่ทำประจำจากเดิมที่มีมาก ก็ค่อย ๆ ลดลง จนสามารถที่จะจัดสรรมาทำงานร่วมกับพี่น้องหมู่มิตรดีได้ อีกทั้งยังได้รับความเมตตา จากพี่ ๆ น้อง ๆ ให้มาเป็นนักเรียน admin ฝึกหัด ฝึกเป็นนักข่าว เขียนข่าว ทำภาพ ซึ่งเป็นงานที่ไม่เคยทำมาก่อน เมื่อได้มาทำก็รู้สึกว่าเป็นงานที่น่าสนใจ แต่ก็มีบางครั้งที่งานประจำกับงานกุศล มาให้เลือกว่าจะทำอะไรก่อนหลังดี ต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่ให้โอกาสได้บำเพ็ญกุศลร่วมกัน พร้อม ๆ กับลดกิเลสตัวเอง ไม่ทำตามใจตัวเอง ฝึกทำตามมติหมู่มิตรพาให้เจริญอย่างเดียวไม่มีเสื่อม ส่งผลเป็นวิบากดี ทำให้เกิดเรื่องดีเพิ่มขึ้น เรื่องร้ายลดลง
จากการปฏิบัติตามหลักการแพทย์วิถีธรรม ทำให้พบว่าการลดกิเลส เป็นการรักษาโรคที่แท้จริง ถ้าเราไม่ได้ลดกิเลส ความกลัว กังวล ความเครียด ก็ยังสามารถทำให้เราเป็นทุกข์ เป็นโรคได้อีก ดังนั้น การปฏิบัติอริยศีล การช่วยเหลือผู้อื่น การทำสมดุลร้อนเย็น และการสานพลังกับหมู่มิตรดี จึงเป็นพลังวิบากดีที่เป็นกุศล ทำให้ชีวิตได้พ้นทุกข์ และพบสุขที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง กราบขอบพระคุณอาจารย์หมอเขียว ดร.ใจเพชร กล้าจนและพี่น้องทุกท่านที่ให้โอกาสได้มาเป็นส่วนหนึ่งของจิตอาสาแพทย์วิถีธรรม